ตัวอักษรเป็นเครื่องมือแรกที่ช่วยให้คุณเข้าถึงภาษาใด ๆ และภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นี่เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการสะกดและการออกเสียงที่ถูกต้องในภายหลัง มาร่วมกับ MochiMochi เรียนรู้เกี่ยวกับตัวอักษรภาษาอังกฤษจาก A ถึง Z ผ่านบทความด้านล่างนี้กันเถอะ
I. แนะนำตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ระบบตัวอักษรภาษาอังกฤษใช้อักษรละตินซึ่งประกอบด้วยตัวอักษร 26 ตัวโดยไม่มีตัวกำกับเสียง ส่วนประกอบเฉพาะของตัวอักษรภาษาอังกฤษได้แก่:
- สระที่เขียนห้าตัว: -a, -e, -i, -o, -u (และบางครั้งรวมทั้ง -y) พยัญชนะที่เขียน
- 21 ตัวอักษรที่เหลือ นอกจากนี้ ภาษาเขียนภาษาอังกฤษยังใช้พยัญชนะคู่: ch, ci, ck, gh, ng, ph, qu, rh, sc, sh, th, ti, wh, wr, zh แต่พยัญชนะคู่ไม่ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของตัวอักษรแยกต่างหากในตัวอักษร
II. การแยกแยะตัวอักษรภาษาอังกฤษและสัทอักษรสากล IPA
ผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษหลายคนมักสับสนระหว่างสองแนวคิดนี้: ตัวอักษรภาษาอังกฤษและสัทอักษรสากล IPA (International Phonetic Alphabet) ตัวอักษรภาษาอังกฤษมีเพียง 26 ตัวอักษรที่ใช้ในการเขียน ในขณะที่สัทอักษร IPA เป็นระบบสัญลักษณ์เสียงที่ใช้แสดงการออกเสียงของคำและพยางค์ในหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษด้วย
ตัวอักษรภาษาอังกฤษสามารถมีหลายวิธีการอ่านเมื่อปรากฏในคำศัพท์ ดังนั้นตัวอักษรภาษาอังกฤษจึงมีเพียง 26 ตัวอักษรแต่สัทอักษร IPA มีเสียงถึง 44 เสียงที่แตกต่างกัน
1. สระ
ตัวอักษรภาษาอังกฤษมีสระห้าตัวตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ในขณะที่การออกเสียงภาษาอังกฤษมีสระทั้งหมด 20 เสียงแบ่งเป็นสระเสียงเดี่ยว (monophthong) และสระประสม (diphthong)
1.1 สระเดี่ยว สระเสียงเดี่ยวจะออกเสียงในหนึ่งพยางค์เดียว
สระ | วิธีการออกเสียง | ตัวอย่าง |
---|---|---|
/i/ | ยิ้มกว้างไปด้านข้างเหมือนกำลังยิ้ม ริมฝีปากบนและล่างปิดแบบหลวมๆ | sit /sɪt/ |
/iː/ | แยกฟันเล็กน้อยและดึงมุมปากทั้งสองข้างเหมือนกำลังยิ้ม และออกเสียงยาวกว่าเสียง /i/ ปกติ | beat /biːt/ |
/ʊ/ | ปลายลิ้นอยู่ต่ำใกล้กับกรามล่าง จากนั้นยกปลายลิ้นขึ้นไปทางเพดานปาก | foot /fʊt/ |
/u:/ | ทำริมฝีปากเป็นรูปวงกลม มุ่งออกไปข้างนอก ออกเสียงยาวประมาณ | food /fuːd/ |
/e/ | ออกเสียงสั้นและชัดเจน | head /hed/ |
/æ/ | ออกเสียงเหมือนครึ่งหนึ่งของ /a/ และครึ่งหนึ่งของ /e/ | bad /bæd/ |
/ə/ | ออกเสียงเหมือนเสียง “เออะ” ออกเสียงสั้น ชัดเจน | about /əˈbaʊt/ |
/ɜ:/ | ออกเสียงเหมือนเสียง “ออกเสียงเหมือนเสียง “เออะ” แต่ยาวขึ้น ลิ้นงอขึ้นเหมือนออกเสียง “r” | bird /bɝːd/ |
/ʌ/ | เปิดปากไม่กว้างมาก ลิ้นวางต่ำกว่าการออกเสียง /ɑ:/ | come /kʌm/ |
/ɑ:/ | รูปปากเหมือนตอนพูด “อาาา” | father /ˈfɑː.ðɚ/ |
/ɒ/ | เปิดปาก กลมริมฝีปากออกเสียงเหมือน /o/ แต่สั้นและชัดเจน | hot /hɒt/ |
/ɔ:/ | ออกเสียงเหมือนเสียง /o/ แต่ยาวขึ้น | short /ʃɔːt/ |
1.2. สระประสม
สระเดี่ยวสามารถผสมกันเพื่อสร้างสระประสมได้ คู่ของสระประสมก็มีวิธีการออกเสียงที่แตกต่างกันในแต่ละกรณี:
สระคู่ | ตัวอย่าง |
---|---|
/aɪ/ | tight /taɪt/ |
/aʊ/ | mouse /maʊs/ |
/eɪ/ | day /deɪ/ |
/eə/ | share /ʃeər/ |
/əʊ/ | bowl /bəʊl/ |
/ʊə/ | tour /tʊər/ |
/ɔɪ/ | choice /tʃɔɪs/ |
/ɪə/ | here /hɪər/ |
2. พยัญชนะ
2.1. พยัญชนะเดี่ยว
/p/ | ปิดริมฝีปากทั้งสองแล้วเปิดออกอย่างรวดเร็ว | put /pʊt/ |
/b/ | ปิดริมฝีปากทั้งสองเบา ๆ แล้วเปิดออกพร้อมกับการสั่นของเส้นเสียง | bear /ber/ |
/f/ | วางฟันหน้าบนริมฝีปากล่างเบา ๆ แล้วปล่อยลมผ่านช่องว่างระหว่างฟันกับริมฝีปาก | phone /foʊn/ |
/v/ | ออกเสียงคล้ายเสียง /v/ | virus /ˈvaɪ.rəs/ |
/h/ | วางลิ้นด้านหลังฟันหน้าบน แล้วปล่อยลมจากคอผ่านปากโดยไม่สั่นเส้นเสียง | how /haʊ/ |
/j/ | เปิดปากไปทางด้านข้างคล้ายการออกเสียง /i/ ยกและดันลิ้นไปด้านหน้า สั่นคล้ายการออกเสียง “gi” | young /jʌŋ/ |
/k/ | ดันลิ้นไปด้านหลัง โคนลิ้นสัมผัสกับเพดานปากบน แล้วปล่อยลมออกไปด้านหน้าโดยไม่สั่นเส้นเสียง | keep /kiːp/ |
/g/ | เปิดปากเล็กน้อย โคนลิ้นยกขึ้นสัมผัสกับเพดานปากบนเบา ๆ แล้วลดลิ้นลงปล่อยลมออกและสั่นเส้นเสียง | game /ɡeɪm/ |
/l/ | ดัดปลายลิ้นแล้วสัมผัสกับเพดานปากบน | light /laɪt/ |
/m/ | ปิดริมฝีปากทั้งสองและปล่อยลมออก | money /ˈmʌni/ |
/n/ | สัมผัสปลายลิ้นกับเหงือกฟันหน้าบน ปล่อยลมออกทางจมูก | night /naɪt/ |
/ŋ/ | ยกโคนลิ้นสัมผัสกับเพดานปากอ่อน ปล่อยลมออกทางจมูกและสั่นเส้นเสียง | sing /sɪŋ/ |
/r/ | ยกปลายลิ้นขึ้นแล้วดึงกลับเพื่อทำให้เส้นเสียงสั่น | right /raɪt/ |
/s/ | ปิดฟันเบา ๆ ยกลิ้นขึ้นที่เหงือกฟันหน้าบน ปล่อยลมผ่านช่องฟัน | speak /spiːk/ |
/z/ | คล้ายการออกเสียง /s/ แต่สั่นเส้นเสียง | size /saɪz/ |
/ʃ/ | ทำริมฝีปากกลมและเปิดออก ปิดฟัน ลิ้นไม่สัมผัสฟัน ปล่อยลมผ่านลิ้นและฟัน | shake /ʃeɪk/ |
/ʒ/ | คล้ายการออกเสียง /ʃ/ แต่สั่นเส้นเสียง | Asia /ˈeɪʒə/ |
/t/ | คล้ายการออกเสียง /t/ แต่แรงกว่า | time /taɪm/ |
/d/ | ยกลิ้นขึ้นที่เพดานปากบน แล้วออกเสียงคล้าย /d/ แต่แรงกว่า | done /dʌn/ |
/tʃ/ | ทำริมฝีปากกลม ปิดฟัน และวางลิ้นที่เพดานปาก แล้วปล่อยลมคล้ายการออกเสียง “ช” | lunch /lʌntʃ/ |
/dʒ/ | คล้ายการออกเสียง /tʃ/ แต่สั่นเส้นเสียง | jacket /ˈdʒækɪt/ |
/ð/ | คล้ายการออกเสียง /θ/ แต่เป็นเสียงสั่น | this /ðɪs/ |
/θ/ | วางลิ้นระหว่างฟันหน้าทั้งสอง แล้วปล่อยลมผ่านช่องว่างระหว่างฟันกับลิ้น | theme /θiːm/ |
/w/ | หมุนริมฝีปากและหายใจออกเพื่อให้เส้นเสียงของคุณสั่น | why /waɪ/ |
2.2. คำควบกล้ำ
คำควบกล้ำ (Consonant clusters) คือการรวมกันของพยัญชนะสองตัวขึ้นไปที่ปรากฏอยู่ติดกันในคำเดียวและไม่ถูกคั่นด้วยสระ เมื่อออกเสียงคำควบกล้ำ แม้ว่าตัวอักษรจะติดกัน แต่ยังต้องออกเสียงแยกกัน สิ่งนี้เป็นจุดที่ยากสำหรับหลายคนเพราะเราไม่คุ้นเคยกับปรากฏการณ์นี้ในภาษาไทย กลุ่มพยัญชนะเหล่านี้สามารถปรากฏได้ในตำแหน่งต้น กลาง และท้ายคำ:
- ตำแหน่งต้น: thanks, think, spring
- ตำแหน่งกลาง: inspiration, instrument
- ตำแหน่งท้าย: catch, match, third
คำควบกล้ำทั่วไปที่พบบ่อย:
- /br/: break, brother
- /kr/: cry, crumb
- /pr/: price, private
- /pl/: plant, plan
- /nt/: student, paint
โปรดทราบว่าคำควบกล้ำ เหล่านี้มีหลายรูปแบบการออกเสียงในสำเนียงต่างๆ
3. เสียงเงียบ (Silent sounds)
อีกหนึ่งลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษา “เขียนอย่างไรอ่านอย่างนั้น” คือจำนวนตัวอักษรในคำและจำนวนเสียงที่อ่านที่ไม่ตรงกัน เนื่องจากในภาษาอังกฤษมีเสียงเงียบ (silent letters) ซึ่งเป็นตัวอักษรที่เขียนอยู่ในคำแต่ไม่ออกเสียงเมื่ออ่าน เกือบทุกสระและพยัญชนะในภาษาอังกฤษสามารถกลายเป็นเสียงเงียบในบางกรณี
ตัวอักษร | ตัวอย่าง |
---|---|
b | dumb /dʌm/, comb /koʊm/ |
c | muscle /ˈmʌs.əl/ |
d | sandwich /ˈsæn.wɪtʃ/, handsome /ˈhæn.səm/ |
e | give /ɡɪv/, hope /hoʊp/ |
g | champagne /ʃæmˈpeɪn/, gnaw /nɑː/ |
h | hour /aʊr/, ghost /ɡoʊst/ |
k | knee /niː/, knife /naɪf/ |
l | yolk /joʊk/, salmon /ˈsæm.ən/ |
n | hymn /hɪm/, column /ˈkɑː.ləm/ |
p | pneumonia /nuːˈmoʊ.njə/, psychotic /saɪˈkɑː.t̬ɪk/ |
t | ballet /bælˈeɪ/, castle /ˈkæs.əl/ |
w | wrinkle /ˈrɪŋ.kəl/, wrap /ræp/ |
x | faux /foʊ/ |
III. วิธีการออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ตัวอักษรแต่ละตัวในภาษาอังกฤษมีวิธีการออกเสียงเฉพาะตามสัทอักษรสากล IPA การเข้าใจวิธีการออกเสียงของตัวอักษรแต่ละตัวจะช่วยคุณได้มากในการออกเสียงและฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยทั่วไป
ด้านล่างนี้คือวิธีการออกเสียงพื้นฐานของตัวอักษรภาษาอังกฤษ:
STT | ตัวพิมพ์ใหญ่ | ตัวพิมพ์เล็ก | สัทอักษร | วิธีการอ่าน | ชื่อ | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | A | a | /eɪ/, /æ/ | a | a | apple, ant |
2 | B | b | /biː/ | b | bee | bee, beach |
3 | C | c | /siː/ | c | cee | city, come |
4 | D | d | /diː/ | d | dee | day, dog |
5 | E | e | /iː/ | e | e | end, egg |
6 | F | f | /ɛf/ | f | ef | fear, four |
7 | G | g | /dʒiː/ | g | gee | go, give |
8 | H | h | /(h)eɪtʃ/ | h | (h)aitch | hate, he |
9 | I | i | /aɪ/ | i | i | ice, illness |
10 | J | j | /dʒeɪ/ | j | jay | jog, jam |
11 | K | k | /keɪ/ | k | kay | kid, keep |
12 | L | l | /ɛl/ | l | el | love, live |
13 | M | m | /ɛm/ | m | em | mother, mean |
14 | N | n | /ɛn/ | n | en | nice, night |
15 | O | o | /oʊ/ | o | o | one, october |
16 | P | p | /piː/ | p | pee | park, pink |
17 | Q | q | /kjuː/ | q | cue | queen, quit |
18 | R | r | /ɑːr/ | r | ar | rat, rock |
19 | S | s | /ɛs/ | s | ess | sad, see |
20 | T | t | /tiː/ | t | tee | tight, talk |
21 | U | u | /juː/ | u | u | universe, unit |
22 | V | v | /viː/ | v | vee | vein, vase |
23 | W | w | /ˈdʌbəl.juː/ | w | double-u | work, world |
24 | X | x | /ɛks/ | x | ex | exit, extra |
25 | Y | y | /waɪ/ | y | wy | yolk, you |
26 | Z | z | /zi/, /zɛd/ | z | zee/zed | zebra, zipper |
สามารถเห็นได้ว่าชื่อของตัวอักษรมักจะเป็นตัวแทนของการออกเสียงของตัวอักษรนั้น อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรในภาษาอังกฤษอาจมีการออกเสียงที่แตกต่างกันเมื่อปรากฏในคำที่ไม่จำเป็นต้องคล้ายกับชื่อตัวอย่างเช่น ตัวอักษร “c” (cee) ในคำว่า come /kʌm/ ถูกออกเสียงเป็น /k/ นอกจากนี้ ตัวอักษรเดี่ยวก็สามารถผสมกันเพื่อสร้างเสียงอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย
IV. วิธีการจำตัวอักษรภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีที่สุด
1. การประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่
จุดประสงค์สุดท้ายของการเรียนรู้ตัวอักษรคือช่วยให้คุณสามารถอ่าน เขียน และสะกดคำศัพท์ใหม่ได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการจำตัวอักษรคือการประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ โดยการวิเคราะห์องค์ประกอบและการออกเสียงของคำศัพท์ที่คุณจะสามารถจำหน้าตาของตัวอักษรได้ยาวนานขึ้น หนึ่งในแอปพลิเคชันที่ช่วยในการเรียนรู้คำศัพท์คือ MochiVocab
MochiVocab เป็นแอปพลิเคชันเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เทคนิคการทบทวนแบบเว้นช่วงระยะ (spaced repetition) ที่ช่วยให้นักเรียนเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการเรียนรู้ของตนเอง ตามประวัติการเรียนรู้ MochiVocab จะคำนวณเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทบทวนคำศัพท์และส่งการแจ้งเตือนถึงคุณ คำศัพท์ใหม่จะถูกนำเสนอในรูปแบบแฟลชการ์ดที่เป็นวิทยาศาสตร์และสะดวกสบาย ประกอบด้วยความหมายภาษาไทย สัทอักษร การออกเสียง ประโยคตัวอย่างพร้อมภาพประกอบ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคำคำนั้น คำศัพท์ที่เรียนแล้วจะถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับของการจดจำ ตั้งแต่เรียนใหม่จนถึงจดจำอย่างลึกซึ้ง ผ่านการนี้ MochiVocab จะจัดสรรความถี่ในการทบทวนคำถามให้เหมาะสมที่สุด
2. เรียนรู้ตัวอักษรผ่านบทกวีและเพลง
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเพลงเป็นวิธีที่คุ้นเคยสำหรับเด็ก ๆ การท่องลำดับตัวอักษรตามจังหวะเพลงจะช่วยให้คุณจำตัวอักษรได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก นอกจากนี้ คุณยังสามารถลองเรียนรู้ผ่านบทกวีที่มาพร้อมกับคำศัพท์พื้นฐานที่แทนตัวอักษรแต่ละตัว
3. เรียนรู้ตัวอักษรเป็นกลุ่ม
คุณยังสามารถจัดประเภทและรวมตัวอักษรที่มีเสียงคล้ายกันไว้ด้วยกันเพื่อจดจำได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น a /ei/, k /kei/, j /ei/ ล้วนจบด้วยเสียง /ei/ ดังนั้นคุณสามารถเรียนรู้การออกเสียงของตัวอักษรหลายตัวพร้อมกันได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการเรียนรู้
V. แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: เขียนสัทอักษรของคำศัพท์ด้านล่างนี้
1. dairy
2. diary
3. notebook
4. time
5. sincere
คำตอบ:
1. /ˈder.i/
2. /ˈdaɪr.i/
3. /ˈnoʊt.bʊk/
4. /taɪm/
5. /sɪnˈsɪr/
แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนคำศัพท์ตามสัทอักษร
1. /tʃeɪndʒ/
2. /raɪs/
3. /reɪz/
4. /bæɡ/
5. /ˈblæŋ.kɪt/
คำตอบ:
1. change
2. rice
3. raise
4. bag
5. blanket
ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นสิ่งพื้นฐานที่ช่วยให้คุณทำความคุ้นเคยกับภาษานี้ได้อย่างรวดเร็ว หวังว่าบทความนี้ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อให้คุณเข้าใจโครงสร้างและวิธีการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษมากขึ้น อย่าลืมติดตามบทความต่อไปจาก MochiMochi เกี่ยวกับเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษนะคะ!