คำประเภทของคำว่า Read ในภาษาอังกฤษ

“Read” เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในภาษาอังกฤษ ไม่เพียงแต่เป็นคำศัพท์พื้นฐานเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคำประเภทต่างๆ ของ “Read” ซึ่งรวมถึงคำกริยา คำนาม คำคุณศัพท์ และรูปแบบที่เกี่ยวข้อง มาสำรวจวิธีการใช้คำว่า “Read” เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการสื่อสารภาษาอังกฤษ

I. Read เป็นคำกริยา

ความหมาย

• กาลปัจจุบัน – /riːd/: อ่าน

ตัวอย่าง: I read books everyday. (ฉันอ่านหนังสือทุกวัน)

• กาลอดีต – /rɛd/: อ่านแล้ว

ตัวอย่าง: I read that book last year. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนั้นเมื่อปีที่แล้ว)

วิธีใช้

• ประโยคปัจจุบันกาล: I read the news every morning. (ฉันอ่านข่าวทุกเช้า)
• ประโยคอดีตกาล: She read the report yesterday. (เธออ่านรายงานเมื่อวานนี้)
• ประโยคปัจจุบันสมบูรณ์: They have read all the articles. (พวกเขาอ่านบทความทั้งหมดแล้ว)
• ประโยคอนาคตกาล: He will read the book tomorrow. (เขาจะอ่านหนังสือเล่มนั้นในวันพรุ่งนี้)

---

II. Read เป็นคำนาม

ความหมาย

การอ่าน หรืองานเขียนที่อ่าน

วิธีใช้

• ใช้เพื่ออ้างถึงการอ่าน: A good read (หนังสือดีๆ สักเล่ม)
• ใช้เพื่ออ้างถึงงานเขียนที่อ่าน: She gave me a read of her essay. (เธอนำบทความของเธอมาให้อ่าน)

---

III. Read เป็นคำคุณศัพท์ (พบน้อย)

ความหมาย

อ่านแล้ว (ใช้ในบางบริบทเพื่ออธิบายสถานะของการอ่าน) เมื่อใช้เป็นคำคุณศัพท์ “read” มักจะมีความหมายว่าบุคคลนั้นได้อ่านหนังสือหรืองานเขียนจำนวนมาก และด้วยเหตุนี้จึงมีความรู้กว้างขวาง การใช้งานลักษณะนี้ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก และมักปรากฏอยู่ในงานเขียนที่เป็นทางการหรืองานเขียนเชิงวิชาการ

การออกเสียง: /rɛd/

วิธีใช้

“Read” เมื่อเป็นคำคุณศัพท์มักใช้ในวลี “well-read” ซึ่งหมายความว่าบุคคลนั้นได้อ่านหนังสือและมีความรู้มากมาย

ตัวอย่าง:

• Well-read: แสดงถึงบุคคลที่มีความรู้กว้างขวางเนื่องจากได้อ่านหนังสือและงานเขียนมากมาย
• She is a well-read individual with a vast knowledge of history. (เธอเป็นคนที่อ่านหนังสือมาก และมีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับประวัติศาสตร์)
• His well-read nature makes him an excellent conversationalist. (การที่เขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทำให้เขาเป็นนักสนทนาที่ยอดเยี่ยม)

คำคุณศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “read”

• Widely-read: เป็นบุคคลที่อ่านหนังสือพิมพ์หรืองานเขียนมากมาย

ตัวอย่าง: As a widely-read scholar, he can discuss various topics with ease. (ในฐานะนักวิชาการที่อ่านหนังสือพิมพ์มากมาย เขาสามารถอภิปรายประเด็นต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว)

• Much-read: อ่านมาก

ตัวอย่าง: He is much-read in the classics of literature. (เขาได้อ่านวรรณกรรมคลาสสิกมากมาย)

แยกแยะคำที่เกี่ยวข้องกับ “read”

Well-read และ Unread: “Well-read” อธิบายถึงบุคคลที่อ่านหนังสือมากมาย ในทางกลับกัน “Unread” อธิบายถึงบุคคลที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือมากนัก

ตัวอย่าง: She is well-read in philosophy, while he remains relatively unread. (เธออ่านหนังสือเกี่ยวกับปรัชญามากมาย ในขณะที่เขายังอ่านหนังสือน้อย)

---

IV. แบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดที่ 1: ระบุประเภทของคำว่า “read” ในประโยคต่อไปนี้

1. She loves to read before going to bed.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
2. He read the instructions carefully.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
3. The well-read scholar impressed everyone with his knowledge.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
4. She loves to read before going to bed.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
5. This book is a must-read for anyone interested in history.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
6. He read the instructions carefully.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
7. The well-read scholar impressed everyone with his knowledge.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
8. She is one of the most widely-read authors in the field.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __
9. They read the entire series in just a week.
   ประเภทของคำว่า “read” คือ: __

เฉลย:

1. คำกริยา
2. คำกริยา
3. คำคุณศัพท์
4. คำกริยา
5. คำนาม
6. คำกริยา
7. คำคุณศัพท์
8. คำคุณศัพท์
9. คำกริยา

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

1. I usually _ (read / reads / reading) the newspaper in the morning.
2. She has _ (read / reads / reading) that book several times.
3. This novel is a fascinating _ (read / reads / reading).
4. He is one of the most _ (read / reads / reading) individuals I know

เฉลย:

1. read
2. read
3. read
4. well-read

แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนประโยคใหม่โดยใช้ “read” ในรูปแบบคำประเภทอื่น

เขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่โดยไม่เปลี่ยนความหมาย โดยใช้ “read” ในรูปแบบคำประเภทอื่น:

1. She enjoys reading books every night. → She enjoys a good _______ every night.
2. He finished the book in one day. → He _______ the book in one day.
3. The professor has a lot of knowledge from reading. → The professor is very _______.
4. This report is essential for anyone in this field. → This report is a must-_______ for anyone in this field.
5. They always read the instructions carefully. → They always _______ the instructions carefully.

เฉลย:

1. She enjoys a good read every night.
2. He read the book in one day.
3. The professor is very well-read.
4. This report is a must-read for anyone in this field.
5. They always read the instructions carefully.

---

V. พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษไปกับ MochiVocab

แอปพลิเคชัน MochiVocab เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนคำศัพท์ภาษาอังกฤษของคุณ จากประวัติการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน MochiVocab จะคำนวณและแจ้งเวลาทบทวนที่ดีที่สุดสำหรับคุณผ่านคุณสมบัติ “ช่วงเวลาทอง” นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ออกแบบมาโดยอิงจากวิธีการเว้นระยะห่าง (spaced repetition) ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าช่วยในการจดจำได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ คำศัพท์ของคุณจะถูกจัดเรียงตาม 5 ระดับ ซึ่งสอดคล้องกับระดับการจดจำ 5 ระดับ ตั้งแต่คำศัพท์ใหม่จนถึงคำศัพท์ที่จดจำได้อย่างแม่นยำ ยิ่งคำศัพท์อยู่ในระดับสูง ช่วงเวลาระหว่างการทบทวนแต่ละครั้งก็จะยิ่งห่างกันมากขึ้น ในทางกลับกัน คำศัพท์ในระดับต่ำจะถูกเตือนให้ทบทวนบ่อยขึ้นจนกว่าคุณจะจำได้ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณสามารถลดเวลาในการทบทวนคำศัพท์ที่จำได้แล้ว เพื่อมุ่งเน้นไปที่คำศัพท์ที่ยากที่คุณมักจะลืม

การเข้าใจชนิดของคำว่า “read” และวิธีการใช้ในบริบทที่แตกต่างกันนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้คำนี้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง การฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับชนิดของคำว่า “read” และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงงานเขียนได้