โครงสร้างประโยคเป็นส่วนหนึ่งของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคัญมาก เมื่อคุณต้องการถ่ายทอดข้อมูลใดๆ ไปยังผู้ฟังในภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง คุณจำเป็นต้องเข้าใจโครงสร้างประโยคที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ มาเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษผ่านบทความนี้กับ MochiMochi กัน
I. โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษคืออะไร?
โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษคือวิธีการจัดเรียงส่วนต่างๆ ของประโยคเพื่อสร้างประโยคที่มีหน้าที่และความหมายที่สมบูรณ์ การเข้าใจโครงสร้างประโยคพื้นฐานจะช่วยให้คุณแสดงความคิดของคุณอย่างชัดเจนและถูกต้อง นี่คือพื้นฐานในการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษโดยทั่วไป
ประโยคภาษาอังกฤษอาจประกอบด้วยประธาน กริยา กรรม กรรมวิธีกริยา คำวิเศษณ์ คำคุณศัพท์ บุพบท สันธาน … หรือส่วนอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับประเภทของประโยคที่แตกต่างกัน โครงสร้างประโยคจะมีส่วนต่างๆ ที่แตกต่างกัน
II. ส่วนประกอบหลักของโครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ
ประธาน (Subject, ย่อว่า S)
ในประโยคภาษาอังกฤษ ประธานอาจเป็นคำนาม กลุ่มคำนาม หรือสรรพนามที่หมายถึงบุคคล สิ่งของ หรือเหตุการณ์ ประธานอาจมีบทบาทเป็นตัวทำการในประโยคกริยาวิธีกิจ (กรณีประโยค active) หรือเป็นตัวรับผลกระทบจากการกระทำใดๆ (ในกรณีประโยค passive)
ตัวอย่าง: My father is cooking dinner. (พ่อของฉันกำลังทำอาหารเย็น)
กริยา (Verb, ย่อว่า V)
กริยาทำหน้าที่แสดงการกระทำหรือสถานะของประธาน โดยทั่วไปโครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษต้องใช้กริยา กริยาในที่นี้สามารถเป็นกริยาเดี่ยวหรือกลุ่มกริยา
ตัวอย่าง: She goes to school by bus. (เธอไปโรงเรียนโดยรถประจำทาง)
กรรม (Object, ย่อว่า O)
กรรมในที่นี้สามารถเป็นสรรพนามที่หมายถึงบุคคล สิ่งของ เหตุการณ์ หรือคำนาม กลุ่มคำนาม ในโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ กรรมมีบทบาทเป็นวัตถุที่ได้รับผลกระทบหรือการกระทำของกริยา
ตัวอย่าง: They will buy a new car next year. (พวกเขาจะซื้อรถใหม่ในปีหน้า)
กรรมมี 2 ประเภท:
- กรรมตรง (direct object): มักปรากฏในรูปแบบของสรรพนามหรือคำนามที่หมายถึงบุคคลหรือสิ่งของที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกริยาการกระทำในประโยค กรรมตรงจะตอบคำถาม “Who?” (ใคร) หรือ “What?” (อะไร)
- กรรมรอง (indirect object): คือคำหรือกลุ่มคำที่หมายถึงวัตถุที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากกริยาการกระทำ และมักจะอยู่ระหว่างกริยากับกรรมตรง กรรมรองตอบคำถาม “to whom/what” หรือ “for whom/what” (ให้กับใคร/อะไร)
ส่วนเติมเต็ม (Complement, ย่อว่า C)
ส่วนเติมเต็มในที่นี้สามารถเป็นคำนาม คำคุณศัพท์ และมักจะตามหลังกรรมหรือกริยานุประโยค ส่วนเติมเต็มมีหน้าที่อธิบายกรรมหรือประธานในประโยค อย่างไรก็ตาม ประโยคภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องมีส่วนเติมเต็มเสมอไป
ตัวอย่าง: His younger sister is a teacher. (น้องสาวของเขานั้นเป็นครู)
เราพบส่วนเติมเต็มบ่อยๆ เมื่อพวกมันอยู่หลังกริยาเช่น:
- ส่วนเติมเต็มเป็นคำคุณศัพท์ที่มักจะอยู่หลังกริยานุประโยค
ตัวอย่าง: My best friend is friendly. (เพื่อนสนิทของฉันนั้นเป็นมิตร)
- ส่วนเติมเต็มเป็นคำนามที่อยู่หลังกริยานุประโยค
ตัวอย่าง: Jennie is a singer. (Jennie เป็นนักร้อง)
- ส่วนเติมเต็มเป็นคำนามที่หมายถึงระยะทาง เวลา หรือน้ำหนัก ซึ่งมักพบในโครงสร้าง: V + (for) + N (ระยะทาง เวลา น้ำหนัก)
ตัวอย่าง: She studies all day. (เธอเรียนตลอดทั้งวัน)
คำวิเศษณ์ (Adverb, ย่อว่า Adv)
คำวิเศษณ์ใช้เพื่อระบุเวลา ความถี่ สถานที่ ระดับ คำวิเศษณ์สามารถอยู่ที่หัวประโยคหรือท้ายประโยค หน้าหรือหลังกริยา เพื่ออธิบายกริยา นอกจากนี้ คำวิเศษณ์ยังสามารถอธิบายคำคุณศัพท์หรือคำวิเศษณ์อื่นๆ ได้
ตัวอย่าง: Last week, my family went picnic. (สัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัวของฉันไปปิกนิก)
คำคุณศัพท์ (Adjective, ย่อว่า Adj)
คำคุณศัพท์ใช้เพื่ออธิบายลักษณะ บุคลิก ลักษณะเฉพาะ … ของบุคคล เหตุการณ์ สิ่งของในประโยค คำคุณศัพท์อยู่หลังกริยา to be, หลังกริยานุประโยค หรืออยู่หน้าคำนามเพื่ออธิบายคำนามนั้น
ตัวอย่าง: Nam is the most handsome boy in his class. (นามเป็นเด็กชายที่หล่อที่สุดในชั้นเรียน)
III. โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
1. S + V
ตัวอย่าง: She (S) works (V). (เธอทำงาน)
2. S + V + O
ตัวอย่าง: He (S) writes (V) a letter (O). (เขาเขียนจดหมาย)
3. S + V + O (direct O) + O (indirect O)
ตัวอย่าง: Tom (S) gave (V) me (O) a pencil (O). (ทอมให้ดินสอฉัน)
4. S + V + C
ตัวอย่าง: Laura (S) looks (V) worried (C). (ลอร่าดูเหมือนจะกังวล)
5. S + V + O + C
ตัวอย่าง: She (S) makes (V) her mother (O) happy (C). (เธอทำให้แม่ของเธอมีความสุข)
6. S + V + to V
ตัวอย่าง: They (S) decided (V) to go shopping (C). (พวกเขาตัดสินใจไปช็อปปิ้ง)
7. S + V + O + Adv
ตัวอย่าง: I (S) saw (V) her husband (O) last week (Adv.) (ฉันเห็นสามีของเธอสัปดาห์ที่แล้ว)
8. S + be + V-ing
ตัวอย่าง: Jack (S) is (be) singing (V-ing). (แจ็คกำลังร้องเพลง)
9. S + V + Adj/ Adv + enough + (for someone) + to V: พอ… สำหรับใครบางคน… ในการ…
ตัวอย่าง: He (S) is (V) rich (Adj) enough to buy (to V) a new house. (เขารวยพอที่จะซื้อบ้านใหม่)
10. It + V + such + (a/an) + N(s) + that + S + V: มากจน… ถึงขั้น…
ตัวอย่าง: We (S) are having (V) such a wonderful trip (N) that we (S) don’t want to go home (V). (เรากำลังมีทริปที่ยอดเยี่ยมมากจนเราไม่อยากกลับบ้าน)
11. S + V + so + Adj/ Adv + that + S + V: มากจน… ถึงขั้น…
ตัวอย่าง: This film (S) is (V) so boring (Adj) that nobody (S) wants to watch it (V). (ภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าเบื่อมากจนไม่มีใครอยากดู)
12. S + V + too + Adj/ Adv + (for someone) + to do something: มากเกินไป… สำหรับใครบางคน… ในการ…
ตัวอย่าง: This question (S) is (V) too difficult (Adj) for me to answer (to V). (คำถามนี้ยากเกินไปสำหรับฉันที่จะตอบ)
13. It is the first time + (that) + S + have/has + V (PP): นี่เป็นครั้งแรก… ที่…
ตัวอย่าง: It’s the first time we (S) have eaten (V – PP) Chinese food. (นี่เป็นครั้งแรกที่เรากินอาหารจีน)
14. It + be + time + S + V (-ed, คอลัมน์ 2) = It’s + time + for someone + to do something: ถึงเวลา… สำหรับใครบางคน… ที่จะ…
ตัวอย่าง: It is (be) time for you (for someone) to eat lunch (to do something). (ถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว)
15. It + takes/took + someone + amount of time + to do something: ใช้เวลา… สำหรับใครบางคน… ในการ…
ตัวอย่าง: It takes her 30 minutes (amount of time) to go to work (to do something) everyday. (เธอใช้เวลา 30 นาทีในการไปทำงานทุกวัน)
16. It’s necessary for somebody to do something: จำเป็น… สำหรับใครบางคน… ในการ…
ตัวอย่าง: It is necessary for you (for somebody) to eat more fruits (to do something). (คุณจำเป็นต้องกินผลไม้ให้มากขึ้น)
17. It is + Adj + (for someone) + to do something: เป็นเรื่อง… สำหรับใครบางคน… ในการ…
ตัวอย่าง: It is important (Adj) for us (for someone) to do exercise (to do something) every day. (เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะออกกำลังกายทุกวัน)
18. N + be + not only + Adj + but also + Adj : ไม่เพียงแต่… แต่ยัง…
ตัวอย่าง: In winter, the days (S) are (be) not only short (Adj) but also cold (Adj). (ในฤดูหนาว วันนั้นไม่เพียงสั้น แต่ยังหนาวอีกด้วย)
19. S + V + N/ Adj/ Adv + as well as + N/ Adj/ Adv: เช่นเดียวกับ…
ตัวอย่าง: Harry (S) plays (V) football (N) as well as volleyball (N). (แฮร์รี่เล่นฟุตบอลเช่นเดียวกับวอลเลย์บอล)
20. S + spend + amount of time/ money + on + something: ใครบางคนใช้เวลา/เงิน… ใน…
ตัวอย่าง: She (S) spends two hours (amount of time) on cooking dinner (something). (เธอใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการทำอาหารเย็น)
21. S + offer + somebody + something: เสนอ… ให้ใครบางคน…
ตัวอย่าง: Ms. Sam (S) offered me (somebody) a position (something) in her company. (นางสาวแซมได้เสนองานให้ฉันในบริษัทของเธอ)
22. S + to be + good at + V-ing/ something: เก่ง… ใน…
ตัวอย่าง: Jenny (S) is (to be) good at swimming (V-ing). (เจนนี่เก่งเรื่องว่ายน้ำ)
23. S + should/would + V + O: ใครบางคนควร…
ตัวอย่าง: You (S) should do (V) your homework (O) now. (คุณควรทำการบ้านของคุณตอนนี้)
24. S + prefer + to + Verb (infinitive) + rather than + Verb (infinitive): ชอบ… มากกว่า…
ตัวอย่าง: We prefer to watch TV rather than read novel. (เราชอบดูทีวีมากกว่าอ่านนวนิยาย)
25. S + had better + V: ควรจะ…
ตัวอย่าง: You (S) had better get up (V) on time. (คุณควรตื่นให้ตรงเวลา)
26. It is (very) kind of somebody to do something: เป็นเรื่อง… ที่…
ตัวอย่าง: It’s very kind of you to invite us. (คุณใจดีมากที่ชวนพวกเรา)
27. S + used to + V: เคย…
ตัวอย่าง: I (S) used to visit Thailand (V). (ฉันเคยไปเที่ยวประเทศไทย)
28. S + be + used to + V-ing/ N: ชินกับ…
ตัวอย่าง: Ly (S) is (be) used to living in dormitory (V-ing). (ลีชินกับการอยู่หอพัก)
29. S + V + like/ as + N: ทำ… เหมือน…
ตัวอย่าง: Jimmy (S) spends money (V) like a billionaire (N). (จิมมี่ใช้เงินเหมือนเศรษฐี)
30. S + be going to + V+ O: กำลังจะ…
ตัวอย่าง: I (S) is going to (be going to) visit (V) my grandmother (O). (ฉันกำลังจะไปเยี่ยมย่าของฉัน)
31. S + to be + able to + V: สามารถ…
ตัวอย่าง: Linh (S) is (to be) able to speak Chinese (V). (ลินสามารถพูดภาษาจีน)
32. S + suggest + V-ing : แนะนำ…
ตัวอย่าง: He (S) suggests eating out tonight (V-ing). (เขาแนะนำให้ไปทานอาหารข้างนอกคืนนี้)
33. S + find + it + Adj + to do something: พบว่า… ในการ…
ตัวอย่าง: I (S) find it challenging (Adj) to learn Chinese in a short time. (ฉันพบว่าการเรียนภาษาจีนในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเรื่องท้าทาย)
34. No matter + wh- clause, S + V: ไม่ว่า… ก็ตาม…
ตัวอย่าง: No matter what happens, I will always support you. (ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะสนับสนุนคุณเสมอ)
35. Unless/ If + clause, S + V: ยกเว้น/ถ้า…
ตัวอย่าง: If you don’t get up (clause), you (S) will miss the last bus. (ถ้าคุณไม่ตื่น คุณจะพลาดรถบัสคันสุดท้าย)
ในทุกภาษา การเรียนรู้คำศัพท์มักเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้คุณท้อใจ วิธีการเรียนคำศัพท์แบบดั้งเดิม เช่น การเขียนลงในกระดาษเพื่อจดจำ อาจช่วยให้คุณจำได้ชั่วคราวเท่านั้น และง่ายต่อการลืมหากไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน หากคุณยังคงติดขัดในการเลือกวิธีการเรียนคำศัพท์ที่มีประสิทธิภาพและลืมยาก คุณสามารถลองเรียนภาษาอังกฤษกับแอปพลิเคชัน MochiVocab
MochiVocab เป็นผลงานของทีม MochiMochi ที่ช่วยให้การเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการนำวิธีการทบทวนแบบเว้นช่วง (spaced repetition) ผ่านฟังก์ชัน “ช่วงเวลาทองคำ”
MochiVocab ประกอบด้วย 20 หลักสูตรเพื่อรองรับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่หลากหลาย รวมถึงบทเรียนเฉพาะสำหรับการสอบ IELTS ในแต่ละระดับ MochiVocab ให้แหล่งข้อมูลคำศัพท์ที่หลากหลาย มากกว่า 8,000 คำที่มีอยู่ในหลายระดับและหัวข้อต่างๆ คำศัพท์ที่ได้เรียนรู้จะถูกจัดเรียงตาม 5 ระดับการจดจำ ตั้งแต่ใหม่ไปจนถึงการจดจำลึก MochiVocab จะกำหนดความถี่ของคำถามที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคำเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนสามารถลดเวลาในการทบทวนคำที่จำได้แล้วและมุ่งเน้นไปที่การทบทวนคำที่ลืมง่าย
ฟังก์ชัน “ช่วงเวลาทองคำ” ของ MochiVocab ใช้ประวัติการเรียนรู้เพื่อคำนวณเวลาเรียนที่ดีที่สุดในแต่ละวันสำหรับแต่ละบุคคลและส่งการแจ้งเตือนเพื่อเตือนให้ทบทวน ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้เรียนประหยัดเวลาและสามารถทบทวนได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่เหมาะสม เริ่มเรียนคำศัพท์กับ MochiVocab เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณตั้งแต่วันนี้
ข้างต้นคือโครงสร้างประโยค 35 ประโยคที่ใช้บ่อยและพบได้ทั่วไปในภาษาอังกฤษทั้งการเขียนและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ฝึกฝนเป็นประจำเพื่อจดจำโครงสร้างเหล่านี้และมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการพิชิตภาษาอังกฤษ