ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

Modal Verb: คำนิยาม, การใช้, ตัวอย่างประกอบ และแบบฝึกหัด

ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ คำกริยาช่วยมีบทบาทสำคัญในการสื่อความหมายและทัศนคติของผู้พูด คำกริยาเช่น “can”, “may”, “must”, และ “should” ไม่เพียงแค่ช่วยเราในการแสดงถึงความสามารถ การอนุญาต หน้าที่ หรือคำแนะนำเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับโครงสร้างประโยคและรูปแบบการสื่อสาร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจคำกริยาช่วยแต่ละประเภท การใช้ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับตัวอย่างประกอบที่ชัดเจน มาเรียนรู้และเข้าใจเครื่องมือไวยากรณ์สำคัญนี้กับ MochiMochi เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณกันเถอะ!

ความหมายของModal Verb

กริยาช่วย (modal verbs) เป็นกลุ่มของกริยาพิเศษในภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดงความสามารถ, การอนุญาต, ภาระหน้าที่ หรือความจำเป็น กริยาช่วยที่พบมากที่สุดได้แก่ “can”, “could”, “may”, “might”, “must”, “shall”, “should”, “will” และ “would”

ตัวอย่าง:

  • She can speak three languages. (เธอสามารถพูดได้สามภาษา)
  • It may rain tomorrow. (พรุ่งนี้อาจจะมีฝนตก)

ลักษณะของกริยาช่วย (Modal Verb)

  • ไม่เปลี่ยนรูปแบบ

กริยาช่วยในภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปตามเอกพจน์หรือพหูพจน์ของประธาน พวกมันจะใช้เพียงในรูปแบบของกาลปัจจุบันและกาลอดีต เพื่อแสดงความสามารถ, การอนุญาต, ภาระหน้าที่ และคำแนะนำ

กาลปัจจุบัน: may, should, can, will, ought to, had better

กาลอดีต: might, should, could, would, ought to, had better

ตัวอย่าง:

You should eat more vegetables. (คุณควรกินผักมากขึ้น)

You can leave early today. (วันนี้คุณสามารถกลับบ้านได้เร็ว)

  • ใช้ร่วมกับกริยาแท้ในรูปแบบไม่ผัน

ต่างจากกริยาทั่วไป กริยาช่วยไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ infinitive กับ “to” หรือ participle พวกมันใช้ร่วมกับกริยาแท้ในรูปแบบไม่ผันและไม่เปลี่ยนรูป

ตัวอย่าง:

He may join us later. (เขาอาจจะเข้าร่วมกับเราภายหลัง)

We ought to respect our elders. (เราควรเคารพผู้ใหญ่)

  • ไม่ต้องใช้กริยาช่วยเมื่อปฏิเสธหรือคำถาม

เมื่อใช้กริยาช่วยในคำถาม Yes/No ไม่ต้องใช้กริยาช่วยอื่น แค่วางกริยาช่วยไว้หน้าประโยคเพื่อสร้างคำถาม

ตัวอย่าง:

Can you help me with this problem? (คุณสามารถช่วยฉันแก้ปัญหานี้ได้ไหม)

Should I bring an umbrella? (ฉันควรนำร่มมาด้วยไหม)


การใช้กริยาช่วย (Modal Verb)

การใช้กริยาช่วย “can”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + can + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + cannot/can’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Can + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงความสามารถของคนหรือสิ่งของในปัจจุบัน
  • ขออนุญาต เสนอแนะ หรือขอร้อง

ตัวอย่าง:

He can play the guitar. (เขาสามารถเล่นกีตาร์ได้)

Can I borrow your pen? (ฉันสามารถยืมปากกาของคุณได้ไหม)

การใช้กริยาช่วย “may”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + may + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + may not + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

May + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงความเป็นไปได้สูงของเหตุการณ์
  • ขออนุญาตทำอะไรบางอย่าง

ตัวอย่าง:

They may move to a new house soon. (พวกเขาอาจจะย้ายไปบ้านใหม่เร็วๆ นี้)

May I use your phone? (ฉันสามารถใช้โทรศัพท์ของคุณได้ไหม)

การใช้กริยาช่วย “should”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + should + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + should not/shouldn’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Should + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • ใช้เพื่อให้คำแนะนำ
  • พูดถึงข้อสันนิษฐานเชิงตรรกะ

ตัวอย่าง:

They should save more money. (พวกเขาควรเก็บเงินมากขึ้น)

The weather is clear, so it should be a good day for a hike. (อากาศแจ่มใส ดังนั้นควรจะเป็นวันที่ดีสำหรับการเดินป่า)

การใช้กริยาช่วย “must”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + must + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + must not/mustn’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Must + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงความจำเป็นหรือบังคับในปัจจุบันและอนาคต
  • แสดงความบังคับจากฝ่ายผู้พูด
  • ใช้เพื่อแสดงการห้าม (mustn’t)

ตัวอย่าง:

Visitors must show their ID at the entrance. (ผู้เยี่ยมชมต้องแสดงบัตรประจำตัวที่ทางเข้า)

I must finish this book by tonight. (ฉันต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบก่อนค่ำนี้)

You mustn’t talk during the exam. (คุณห้ามพูดคุยระหว่างการสอบ)

การใช้กริยาช่วย “shall”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + shall + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + shall not + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Shall + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • ใช้ในโครงสร้างของกาลอนาคต (กับประธาน I และ We)
  • แสดงคำสัญญา ความแน่วแน่ หรือขู่

ตัวอย่าง:

We shall overcome these challenges. (พวกเราจะผ่านความท้าทายเหล่านี้ไปได้)

If you continue this behavior, you shall face consequences. (หากคุณยังคงพฤติกรรมนี้ คุณจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา)

การใช้กริยาช่วย “could”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + could + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + could not/couldn’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Could + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคตแต่ไม่แน่นอน
  • ขออนุญาตแต่สุภาพกว่า “can”
  • แสดงความสามารถของคนหรือสิ่งของในอดีต

ตัวอย่าง:

It could rain later. (อาจจะมีฝนตกภายหลัง)

Could I have some water, please? (ฉันขอน้ำหน่อยได้ไหม)

My grandmother could knit very well. (คุณย่าของฉันถักไหมพรมได้เก่งมาก)

การใช้กริยาช่วย “would”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + would + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + would not/wouldn’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Would + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงสมมติฐานในอดีตหรือการคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  • ใช้ในคำเชิญ ขอร้องที่สุภาพ

ตัวอย่าง:

If I were you, I would take the job. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะรับงานนั้น)

Would you like some tea? (คุณต้องการชาหรือเปล่า)

การใช้กริยาช่วย “might”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + might + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + might not + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Might + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • แสดงความเป็นไปได้ต่ำของเหตุการณ์
  • ขออนุญาตทำอะไรบางอย่างอย่างเป็นทางการ

ตัวอย่าง:

They might come to the party, but it’s unlikely. (พวกเขาอาจจะมางานเลี้ยง แต่ไม่แน่ใจ)

Might I borrow your book for a while? (ฉันขอยืมหนังสือของคุณสักครู่ได้ไหม)

การใช้กริยาช่วย “will”

โครงสร้าง:

ประโยคบอกเล่า:

S + will + V-infinitive + O

ประโยคปฏิเสธ:

S + will not/won’t + V-infinitive + O

ประโยคคำถาม:

Will + S + V-infinitive + O?

การใช้:

  • คาดการณ์หรือแสดงเหตุการณ์ สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ตัดสินใจในขณะนั้น
  • ขอร้อง คำเชิญ หรือข้อเสนอ

ตัวอย่าง:

The weather will be sunny tomorrow. (พรุ่งนี้อากาศจะมีแดด)

I will call you later. (ฉันจะโทรหาคุณภายหลัง)

Will you help me with this task? (คุณจะช่วยฉันในงานนี้ได้ไหม)


แบบฝึกหัดการใช้งาน

1. Keep quiet. You _______ talk so loudly in here. Everybody is working.

A. may

B. must

C. might

D. mustn’t

2. You _______ eat too much fast food. It’s not good for your health.

A. should

B. must

C. might

D. could

3. _______ you help me with my homework, please?

A. May

B. Should

C. Can

D. Will

4. If it doesn’t rain, we _______ go to the park tomorrow.

A. might

B. should

C. will

D. could

5. He _______ speak three languages fluently.

A. must

B. should

C. can

D. will

6. I’m not sure, but he _______ come to the party tonight.

A. can

B. might

C. must

D. will

7. You _______ forget to lock the door when you leave the house.

A. may

B. might

C. mustn’t

D. could

8. They _______ finish the project by the end of this week.

A. should

B. may

C. will

D. could

9. _______ I borrow your pen for a moment?

A. Must

B. Would

C. Should

D. Can

10. You _______ wear a helmet when riding a motorcycle.

A. must

B. might

C. could

D. may

  1. D
  2. A
  3. C
  4. C
  5. C
  6. B
  7. C
  8. A
  9. D
  10. A

เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพกับ MochiVocab

MochiVocab เป็นแอปพลิเคชันการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้วิธีการ Spaced Repetition ในการวิเคราะห์ประวัติการเรียนรู้ของผู้ใช้เพื่อคำนวณ “ช่วงเวลาทอง” ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ใช้ให้ทบทวนเมื่อสมองกำลังจะลืมความรู้ด้วยการเรียนเพียงวันละ 10-15 นาที MochiVocab ช่วยให้ผู้เรียนจำคำศัพท์ได้ถึง1000

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดคือ “ช่วงเวลาทอง” ซึ่งจะคำนวณเวลาที่ผู้ใช้จะลืมคำศัพท์ตามประวัติการเรียนรู้ของผู้ใช้ เมื่อเวลานั้นมาถึง แอปจะแจ้งเตือนทางโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้ทบทวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจำ

จากผลการเรียนของคุณ MochiVocab จะจัดเรียงคำศัพท์ที่คุณได้เรียนรู้ตามระดับความจำ 5 ระดับ คำศัพท์ในระดับที่สูงขึ้นจะมีช่วงเวลาทบทวนที่ยาวนานขึ้น ในทางกลับกัน คำศัพท์ในระดับต่ำจะถูกแจ้งเตือนให้ทบทวนบ่อยขึ้นจนกว่าคุณจะจำได้อย่างแม่นยำ วิธีนี้ช่วยให้คุณลดเวลาทบทวนคำศัพท์ที่จำได้แล้วเพื่อมุ่งเน้นไปที่คำศัพท์ที่ยากและที่คุณมักจะลืม

app mochivocab
คุณสมบัติของช่วงเวลาทอง
แจ้งเตือนถึงเวลาต้องเข้าไปทบทวนคำ

กับ MochiVocab การเรียนรู้คำศัพท์จะไม่ใช่ปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษของคุณอีกต่อไป เริ่มต้นประสบการณ์เพื่อปรับปรุงระดับของคุณกันเถอะ

กริยาช่วยเป็นส่วนสำคัญและขาดไม่ได้ของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยแสดงความเป็นไปได้ ความจำเป็น คำแนะนำ และความหมายอื่นๆ อีกมากมายในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การฝึกฝนการใช้กริยาช่วยจะช่วยให้คุณพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและถูกต้องมากขึ้น หวังว่าบทความนี้โดย MochiMochi จะทำให้คุณมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีใช้กริยาช่วย และสามารถนำมาใช้ได้อย่างยืดหยุ่นในสถานการณ์การสื่อสารต่างๆ