ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

Nounในภาษาอังกฤษคืออะไร?การจำแนกและวิธีการใช้อย่างละเอียด

คำนามเป็นหนึ่งในหน่วยไวยากรณ์พื้นฐานที่สุดในทุกภาษา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความคุ้นเคยนี้ หลายคนมักจะละเลยการศึกษาอย่างถี่ถ้วน นำไปสู่ข้อผิดพลาดพื้นฐานในภายหลัง บทความนี้จะสรุปข้อมูลสำคัญที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับคำนามในภาษาอังกฤษ ตั้งแต่การจำแนกไปจนถึงวิธีการใช้

I. Noun คืออะไร?

คำนาม (nouns) เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงกับความคิดหรือแนวคิดนามธรรมได้ ในด้านไวยากรณ์ คำนามสามารถทำหน้าที่ต่างๆ ในประโยค เช่น ประธาน กรรมตรง กรรมรอง ส่วนเติมเต็ม และคุณศัพท์วิเศษณ์

ตัวอย่างบางส่วนของคำนาม:

  • คำนามที่หมายถึงสิ่งมีชีวิต (คนหรือสัตว์): James Bond (ชื่อเฉพาะ), dog (สุนัข)
  • คำนามที่หมายถึงสถานที่: Ho Chi Minh City (นครโฮจิมินห์), forest (ป่า)
  • คำนามที่หมายถึงสิ่งของ: chair (เก้าอี้), book (หนังสือ)
  • คำนามที่หมายถึงแนวคิดหรือความคิด: consumerism (ลัทธิบริโภคนิยม), theory of relativity (ทฤษฎีสัมพัทธภาพ), knowledge (ความรู้)

คลังคำศัพท์ โดยเฉพาะคำนาม เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณฝึกฝนทั้งสี่ทักษะของภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญ ดังนั้น ใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาระดับภาษา ควรพัฒนาคลังคำศัพท์ของตนอยู่เสมอ เพื่อให้การเรียนรู้คำศัพท์มีประสิทธิภาพ จดจำได้มากและนาน คุณควรใช้เทคโนโลยีในแอปพลิเคชันการเรียนรู้คำศัพท์ เช่น MochiVocab

MochiVocab เป็นแอปพลิเคชันการเรียนรู้คำศัพท์ที่ใช้วิธีการเรียนแบบเว้นช่วง (spaced repetition) เพื่อช่วยผู้เรียนเพิ่มประสิทธิภาพแผนการทบทวนของตน โดยพิจารณาจากประวัติการเรียนรู้คำศัพท์ของแต่ละบุคคล ฟีเจอร์ “ช่วงเวลาทอง” ของ MochiVocab จะคำนวณและเตือนผู้เรียนให้ทบทวนคำศัพท์ในช่วงเวลาที่สมองกำลังจะลืมคำใหม่ๆ ด้วยวิธีนี้ แทนที่จะเรียนรู้ซ้ำๆ หลายครั้งในวันเดียว คุณเพียงแค่ต้องเรียนรู้ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพการจำที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ คุณสามารถเพิ่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ถึง 60,000 คำ จากหลายหัวข้อและระดับที่แตกต่างกันซึ่งได้ถูกรวบรวมไว้ในแอปพลิเคชันแล้ว

app mochivocab
คุณสมบัติของช่วงเวลาทอง
แจ้งเตือนถึงเวลาต้องเข้าไปทบทวนคำ

คำศัพท์ในแอปจะถูกนำเสนอในรูปแบบแฟลชการ์ด ซึ่งมีคำใหม่ ความหมายภาษาไทย การถอดเสียงภาษาอังกฤษ เสียงการออกเสียง และตัวอย่างประโยค ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคำนั้นๆ MochiVocab ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ช่วยสร้างความสนุกในการเรียนรู้ เช่น สมุดบันทึกคำศัพท์ การปลูกต้นไม้เสมือนจริงโดยการรักษาจำนวนวันเรียนต่อเนื่อง เป็นต้น


II. การจำแนก Noun ในภาษาอังกฤษ

คำนามมีสัดส่วนใหญ่ในคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ดังนั้นส่วนใหญ่ของคำศัพท์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันจึงเป็นคำนาม คำนามในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท

1. Noun ทั่วไป (Common/Generic nouns) และ Noun เฉพาะ (proper nouns)

คำนามทั่วไปในภาษาอังกฤษคือ common nouns หรือ generic nouns ใช้เรียกสิ่งที่อยู่ในกลุ่มทั่วไป ไม่ต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เว้นแต่จะอยู่ต้นประโยคหรือเป็นคำนำหน้านาม

กลุ่มย่อยของคำนามทั่วไปประกอบด้วย: คำนามรูปธรรม (Concrete nouns), คำนามนามธรรม (Abstract nouns), และคำนามรวม (Collective nouns)

  • คำนามรูปธรรม (Concrete nouns): คือคำที่บ่งบอกถึงวัตถุที่มีรูปร่าง สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส เช่น มอง เห็น ได้ยิน สัมผัส ดม กลิ่น

ตัวอย่าง: The meat was really bland and chewy. (เนื้อชิ้นนี้จืดและเหนียวมาก)

  • คำนามนามธรรม (Abstract nouns): ตรงข้ามกับคำนามรูปธรรม คำนามนามธรรมบ่งบอกถึงแนวคิดหรือความคิดที่ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั่วไป

ตัวอย่าง: This idea is way too crazy. (ไอเดียนี้บ้าบอมาก)

  • คำนามรวม (Collective nouns): เป็นคำนามที่บ่งบอกถึงกลุ่มของสิ่งของ คน หรือสัตว์

ตัวอย่าง: They’re observing a herd of cows. (พวกเขากำลังสังเกตฝูงวัว)

  • คำนามเฉพาะ (Proper nouns) ใช้เรียกชื่อคน สถานที่ หรือสิ่งของ และต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ

ตัวอย่าง: We’re planning to visit Da Nang at least twice a year. (เราวางแผนที่จะไปเที่ยวดานังอย่างน้อยปีละสองครั้ง)

2. Noun เดี่ยว (Simple nouns) และ Noun ผสม (compound nouns)

คำนามเดี่ยวคือคำนามที่ประกอบด้วยคำเดียวที่คุณพบเห็นในชีวิตประจำวัน

คำนามผสมถูกสร้างขึ้นโดยการรวมคำสองคำขึ้นไป มีหลายวิธีในการสร้างคำนามผสม ซึ่งสามวิธีที่พบมากที่สุดคือ:

  • คำนาม + คำนาม (noun + noun): shoplifter (ขโมยของ), airport (สนามบิน)
  • คุณศัพท์ + คำนาม (adjective + noun): greenhouse (เรือนกระจก), goldfish (ปลาทอง)
  • กริยา + คำนาม (verb + noun): swimming pool (สระว่ายน้ำ)

ในรูปแบบ คำนามผสมสามารถเขียนติดกันเป็นคำเดียว, ใช้ขีดกลางเชื่อมต่อ, หรือเขียนแยกคำกันก็ได้

3. Noun และการนับจำนวน

3.1. Noun นับได้ (Countable nouns) และ Noun นับไม่ได้ (Uncountable/Mass nouns)

คำนามรูปธรรมและคำนามนามธรรมสามารถแบ่งออกเป็นคำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้ คำนามนับได้ (countable nouns) คือสิ่งที่สามารถนับจำนวนได้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คำนามนับได้สามารถอยู่ในรูปพหูพจน์หรือเอกพจน์ ใช้ร่วมกับคำบ่งบอกจำนวนเช่น a/an, some, any, many, numerous, a few, a little เป็นต้น

คำนามนับไม่ได้ (uncountable nouns หรือ mass nouns) คือสิ่งที่ไม่สามารถนับได้ อาจเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม (เช่น information, emission เป็นต้น), กลุ่มทั่วไป (เช่น furniture, equipment เป็นต้น), หรือวัสดุที่มีลักษณะเดียวกัน (เช่น water, air, sand เป็นต้น) แม้ว่าคำนามนับไม่ได้จะปรากฏในรูปเอกพจน์ แต่จะไม่ใช้กับ article a/an เราสามารถแบ่งคำนามนับไม่ได้เป็นหน่วยนับได้โดยใช้คำนามอื่นๆ เช่น a piece of advice

3.2 Noun เอกพจน์ (Singular nouns) และ Noun พหูพจน์ (plural nouns)

คำนามนับได้ทั้งหมดสามารถแบ่งเป็นรูปเอกพจน์หรือพหูพจน์ คำนามเอกพจน์ใช้กับคนหนึ่งคน สิ่งของหนึ่งสิ่ง สถานที่หนึ่งแห่ง เป็นต้น และใช้กับกริยาเอกพจน์ ตรงกันข้าม คำนามพหูพจน์ใช้กับสองสิ่งหรือมากกว่านั้นและใช้กับกริยาพหูพจน์

ส่วนใหญ่คำนามจะแปลงเป็นพหูพจน์โดยการเติม -s/es

ตัวอย่าง: a cat (เอกพจน์) → cats (พหูพจน์)

นอกจากนี้ยังมีข้อยกเว้นที่ไม่เป็นไปตามกฎอีกหลายกรณี


III. รูปแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive case)

รูปแสดงความเป็นเจ้าของแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำนามกับส่วนอื่น ๆ ในประโยค วิธีสร้างรูปแสดงความเป็นเจ้าของกับคำนาม:

  • สำหรับคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์ที่ไม่ลงท้ายด้วย -s/es: เพิ่ม ‘s หลังคำนาม

ตัวอย่าง: My daughter’s school is right across the road. (โรงเรียนของลูกสาวฉันอยู่ตรงข้ามถนน)

กฎนี้มักจะถูกใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s/es ด้วย

ตัวอย่าง: My boss’s cat is his only best friend. (แมวของเจ้านายฉันเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา)

  • สำหรับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s/es: เพิ่มเครื่องหมายอัญประกาศ ‘ หลังคำนาม

ตัวอย่าง: My parents’ house will be donated to charity. (บ้านของพ่อแม่ฉันจะถูกบริจาคเพื่อการกุศล)


IV. กลุ่ม Noun (Noun phrases)

กลุ่มคำนาม (noun phrases) เป็นกลุ่มของคำที่มีองค์ประกอบหลักเป็นคำนามหรือคำสรรพนาม โดยมีคำขยายให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามหลักที่กล่าวถึง

กลุ่มคำนามสามารถใช้เพื่อบ่งบอกถึงวัตถุเฉพาะหรือกลุ่มที่กว้างขึ้น

ตัวอย่าง: the moon (ดวงจันทร์), a big car (รถยนต์คันใหญ่)


V. หน้าที่ของ Noun

คำนามสามารถมีบทบาทหลายอย่างในประโยค:

1. ประธานของประโยค (Subject)

ทุกประโยคที่สมบูรณ์ต้องมีประธาน ซึ่งมักจะเป็นคำนามหรือคำสรรพนาม ประธานคือบุคคลหรือสิ่งที่ทำหรือได้รับผลกระทบ

ตัวอย่าง: Anne is playing in the garden. (แอนกำลังเล่นในสวน)

2. กรรมในประโยค (Object)

คำนามสามารถเป็นกรรมตรง (direct object) หรือกรรมรอง (indirect object) ของคำกริยาในประโยค

ตัวอย่าง:

She accidentally hit the cat. (เธอบังเอิญตีโดนแมว) – กรรมตรง

We bought the girl a birthday cake. (พวกเราซื้อเค้กวันเกิดให้เด็กผู้หญิง)

3. ส่วนเติมเต็มของประธานและกรรม (Subject and object complements)

คำนามบางครั้งทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มของประธานและกรรม ส่วนเติมเต็มของประธานมักจะตามหลังคำกริยาเชื่อม เช่น be, become, หรือ seem เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน

ตัวอย่าง: The gift for his daughter is a book. (ของขวัญสำหรับลูกสาวของเขาคือหนังสือ)

เช่นเดียวกัน ส่วนเติมเต็มของกรรมช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมตรง

ตัวอย่าง: She calls him Jack. (เธอเรียกเขาว่าแจ็ค)

4. คำนามคู่ขนาน (Appositives)

คำนามที่เป็นคำนามคู่ขนานจะปรากฏถัดจากคำนามอีกคำเพื่ออธิบายหรือชี้แจงคำนามหลัก คำนามคู่ขนานอาจเป็นประเภทกำหนด (restrictive appositives) หรือไม่กำหนด (nonrestrictive appositives)

ตัวอย่าง: My friend Anne is a teacher. (เพื่อนของฉันแอนเป็นครู)

ในทางกลับกัน คำนามคู่ขนานที่ไม่กำหนดไม่จำเป็นต้องปรากฏในประโยค คนอ่านก็สามารถเข้าใจได้

ตัวอย่าง: A friend of mine, Anne, is a teacher. (เพื่อนของฉันคนหนึ่ง ชื่อแอน เป็นครู)

5. คำขยาย (Modifiers)

คำนามยังสามารถทำหน้าที่เป็นคำขยายเพิ่มเติมข้อมูล เช่นเดียวกับคุณศัพท์ คำนามที่ใช้ในบทบาทนี้มักจะเรียกว่าคำนามสังกัด (attributive nouns)

ตัวอย่าง: She is a speed writer. (เธอเขียนได้เร็ว)


VI. แบบฝึกหัด

เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

1. Children should be taught how to brush their _____ at an early age.

A. tooth

B. tooths

C. teeth

D. teeths

2. The news _____ all over the Internet now.

A. is

B. are

C. were

D. have been

3. Please throw away the rotten _____.

A. tomato

B. tomatoes

C. tomatos

D. tomatoos

4. It’s so kind of you to donate your ____ to the library.

A. book

B. a book

C. bookes

D. books

5. There is ____ cat sleeping on the bench.

A. an

B. a

C. those

D. these

6. We saw a school of ____ swimming in the pool.

A. fishes

B. fish

C. fishs

D. a fish

7. The _____ are setting up the tent with their dad.

A. boys

B. boy

C. bois

D. boyes

8. They caught more than 20 _____ with that mousetrap.

A. mouses

B. mouse

C. mice

D. mousees

9. Wet _____ on the road can be dangerous when it’s raining.

A. leafs

B. leave

C. leaves

D. leafes

10. There are only two ______ of bread left.

A. loaves

B. loafs

C. loafes

D. loaves

1. C

2. A

3. B

4. D

5. B

6. B

7. A

8. C

9. C

10. D

คำนามเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีจำนวนมากในคำศัพท์ภาษาอังกฤษ หวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทของคำนามและการใช้ในภาษาอังกฤษ อ่านบทความอื่นๆ ของ MochiMochi เพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม