อนุประโยคสัมพัทธ์เป็นส่วนสำคัญในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ช่วยให้ประโยคชัดเจนและให้ละเอียดมากขึ้น ในบทความนี้ MochiMochi จะแนะนำอนุประโยคสัมพัทธ์และวิธีการใช้ในการเรียนภาษาอังกฤษ
อนุประโยคสัมพัทธ์คืออะไร?
อนุประโยคสัมพัทธ์ (Relative Clause) อนุประโยคไม่อิสระประเภทหนึ่ง ที่มีหัวเรื่องและกริยา แต่ไม่สามารถอยู่เดี่ยวเป็นประโยคได้ คือประโยครองที่เชื่อมกับประโยคหลักโดยสรรพนามสัมพันธการกหรือคำวิเศษณ์สัมพันธการก ยืนอยู่หลังคำนาม/สรรพนามและเสริมความหมายให้กับคำนาม/สรรพนามนั้น ประโยคสัมพันธการกมักเริ่มต้นด้วยสรรพนามสัมพันธการกเช่น : who, whom, which, that, whose, where, และ when
ตัวอย่าง: The book that I bought yesterday is interesting. (หนังสือที่ฉันซื้อเมื่อวานนี้น่าสนใจ)
ประโยครอง “I bought yesterday is interesting” เรียกว่าอนุประโยคสัมพัทธ์ เชื่อมกับประโยคหลักโดยคำวิเศษณ์สัมพันธการก “that” ยืนอยู่หลังและเสริมความหมายให้กับคำนาม “the book” เพื่อให้ผู้ฟังรู้ว่ากำลังพูดถึงหนังสือเล่มไหน
ประเภทของอนุประโยคสัมพัทธ์
อนุประโยคสัมพัทธ์แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:
- อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุชัดเจน (Defining Relative Clause)
- อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุไม่ชัดเจน (Non-defining Relative Clause)
อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุชัดเจน (Defining Relative Clause)
อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุชัดเจนให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับคำนามที่มันเสริมความหมาย ถ้าตัดประโยคนี้ออก ประโยคจะไม่ชัดเจน อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุชัดเจนจะใช้เมื่อคำนามเป็นคำนามไม่ระบุชัดเจนและไม่ใช้จุลภาคแยกจากประโยคหลัก
ตัวอย่าง: The girl who is wearing a red dress is my older sister. (เด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดสีแดงคือพี่สาวของฉัน)
ในประโยคนี้ “who is wearing a red dress” เป็นอนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุชัดเจน สรรพนามสัมพันธการก “who” แทนที่ “the girl” และทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค ถ้าตัดประโยคนี้ออก ประโยคจะไม่ชัดเจน ไม่ระบุว่า “my older sister” คือใคร
อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุไม่ชัดเจน (Non-defining Relative Clause)
อนุประโยคสัมพัทธ์ที่ระบุไม่ชัดเจนให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคำนามที่มันเสริมความหมาย ข้อมูลเหล่านี้ไม่จำเป็นสำหรับการเข้าใจความหมายของประโยค ประโยคนี้มักแยกด้วยจุลภาค
ตัวอย่าง: My brother, who lives in New York, is a doctor. (พี่ชายของฉัน, ผู้ที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก, เป็นหมอ)
ในประโยคนี้ “who lives in New York” เป็นประโยคสัมพันธการกที่ไม่ระบุชัดเจน เสริมความหมายให้กับ “my brother” ถ้าตัดประโยคนี้ออก ประโยคยังคงชัดเจน: “My brother is a doctor.”
สรรพนามสัมพันธการก (Relative Pronouns)
- Who: ใช้แทนคำนามที่เป็นคน ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคสัมพันธการก
N (person) + who + V+ O
ตัวอย่าง: The teacher who teaches me is very kind. (ครูที่สอนฉันใจดีมาก)
- Whom: ใช้แทนคำนามที่เป็นคน ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยคสัมพันธการก
N (person) + whom + S + V
ตัวอย่าง: The man whom you met yesterday is my uncle. (ผู้ชายที่คุณเจอเมื่อวานนี้คือคุณลุงของฉัน)
- Which: ใช้แทนคำนามที่เป็นสิ่งของ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคสัมพันธการก
N (thing) + which + V + O
ตัวอย่าง: The car which I bought is blue. (รถที่ฉันซื้อเป็นสีฟ้า)
- That: สามารถใช้แทน who, whom, และ which ในประโยคสัมพันธการกที่ระบุชัดเจน
N + that + V + O
N + that + S + V
ตัวอย่าง: The house that Jack built is old. (บ้านที่แจ็คสร้างเก่าแล้ว)
- Whose: ใช้เพื่อบอกถึงความเป็นเจ้าของ แทนที่ his, her, its, their
N (person,thing) + whose + N + V
ตัวอย่าง: The girl whose bag is blue is my younger sister. (เด็กผู้หญิงที่มีกระเป๋าสีน้ำเงินคือพี่สาวของฉัน)
คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมอนุประโยค (Relative Adverbs)
- Where: ใช้แทนสถานที่
N (place) + where + S + V
ตัวอย่าง: The city where I was born is beautiful. (เมืองที่ฉันเกิดสวยงาม)
- When: ใช้แทนเวลา
N(time) + when + S + V
ตัวอย่าง: I remember the day when we first met. (ฉันจำวันแรกที่เราเจอกันได้)
- Why: ใช้แทนเหตุผลหรือสาเหตุ
N(reason) + why + S + V
ตัวอย่าง: That’s the reason why I didn’t come to the party. (นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่มางานปาร์ตี้)
การย่อประโยคสัมพันธการก
- การย่อรูปแบบปัจจุบันกาล (V-ing)
ถ้ากริยาของประโยคสัมพันธการกอยู่ในรูปแบบกระทำ (active voice) สามารถย่อตัวสรรพนามสัมพันธการกและกริยาให้อยู่ในรูป V-ing
ตัวอย่าง: The man who teaches English is leaving our class (ผู้ชายที่สอนภาษาอังกฤษกำลังออกจากชั้นเรียนของเรา)
ย่อรูปแบบ: The man who teaches → teaching English is leaving our class.
- การย่อรูปแบบอดีตกาล (V3/V-ed)
ถ้ากริยาของประโยคสัมพันธการกอยู่ในรูปแบบถูกกระทำ (passive voice) สามารถย่อตัวสรรพนามสัมพันธการกและคำว่า “be” และให้กริยาอยู่ในรูป V3/V-ed
ตัวอย่าง: The girl who is/ was injured was my neighbor (เด็กผู้หญิงที่บาดเจ็บคือเพื่อนบ้านของฉัน)
ย่อรูปแบบ: The girl who is/ was injured→ injured was my neighbor
การประยุกต์ใช้ประโยคสัมพันธการกในการเรียนภาษาอังกฤษ
เรียนรู้คำศัพท์ผ่านประโยคที่มีประโยคสัมพันธการก
เรียนรู้คำศัพท์ผ่านประโยคที่มีประโยคสัมพันธการกเป็นวิธีการที่มีประโยชน์เพื่อขยายคลังคำศัพท์ของคุณและเข้าใจการใช้คำในบริบท
ตัวอย่าง: The scientist who discovered the cure for the disease received a Nobel Prize. (นักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบวิธีรักษาโรคได้รับรางวัลโนเบล)
เมื่อคุณเจอประโยคเช่นนี้ คุณไม่เพียงแค่พบคำใหม่ๆ เช่น “scientist”, “cure”, และ “Nobel Prize” เท่านั้น แต่ยังเข้าใจวิธีใช้คำเหล่านี้ในบริบทเฉพาะอีกด้วย เมื่อฝึกคำศัพท์แบบนี้ คุณไม่เพียงแค่เรียนรู้คำใหม่แต่ยังพัฒนาความสามารถในการเข้าใจและใช้คำศัพท์ในการสื่อสารและการเขียน
คุณยังสามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆตามหัวข้อและใช้วิธีการเดียวกันนี้เพื่อปรับปรุงความสามารถในการจำวิธีการใช้ประโยคสัมพันธการก การเรียนรู้คำศัพท์กับ MochiVocab จะช่วยให้กระบวนการเรียนของคุณมีการจัดการมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์แจ้งเตือนการเรียนรู้ในเวลาที่เหมาะสม แอปพลิเคชันจะเตือนให้คุณเรียนรู้คำใหม่ในเวลาที่มีประสิทธิภาพที่สุด ช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของคุณ นอกจากนี้ ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบ Spaced Repetition, MochiVocab จะจัดระเบียบและจัดกลุ่มคำศัพท์ตามหัวข้อ แบ่งคำศัพท์ที่คุณเรียนรู้ออกเป็น 5 ระดับต่างๆ ช่วยให้คุณจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ 1000 คำในหนึ่งเดือน วิธีนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาในการทบทวนและเน้นไปที่คำที่คุณต้องใส่ใจมากที่สุดมากขึ้น
ฝึกฟังประโยคที่มีสัมพันธการก
การฝึกฟังเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองเมื่อใช้ประโยคที่มีประโยคสัมพันธการก เมื่อฝึกฟัง ให้ใส่ใจกับประโยคสัมพันธการกเพื่อเข้าใจโครงสร้างและบริบทการใช้
ตัวอย่าง: The man, who is wearing a hat, is my uncle. (ผู้ชายที่สวมหมวกคนนั้นคือคุณลุงของฉัน)
ให้คุณสังเกตคำว่า “who” และระบุประโยคสัมพันธการกในประโยค ฟังและเติมคำที่เหมาะสมลงในช่องว่างช่วยเพิ่มความสามารถในการฟังและเข้าใจประโยคสัมพันธการก คุณสามารถฝึกการฟังอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมและหัวข้อต่างๆ มากมายเพื่อปรับปรุงระดับการฟังของคุณ
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด 1: เติมคำในช่องว่างโดยใช้ประโยคสัมพันธการกที่เหมาะสม ใช้ “who”, “whom”, “whose”, “which”, “that” เพื่อเสริมข้อมูลให้กับคำนามที่อยู่ข้างหน้า
1. The woman _________ lives next door is a doctor.
2. The book _________ I bought yesterday is very interesting.
3. The boy _________ you saw at the party is my cousin.
4. The teacher _________ taught me English is from Australia.
5. The house _________ has a red door belongs to my aunt.
6. The people _________ you met at the conference are from different countries.
7. The man _________ you gave the letter to is my father.
8. The car _________ is parked outside is mine.
9. The girl _________ bag was stolen reported the incident to the police.
10. The movie _________ we watched last night was amazing.
คำตอบ:
1. Who
2. Which/that
3. Whom/who/that
4. Who
5. Which/that
6. Whom/who/that
7. Whom/who/that
8. Which/that
9. Whose
10. Which/that
แบบฝึกหัด 2: เชื่อมต่อสองประโยคต่อไปนี้โดยใช้ประโยคสัมพันธการกที่ระบุชัดเจน
1. I met a girl. She speaks three languages.
2. My sister has a friend. His brother is a pilot.
3. There is a shop. They sell organic products there.
4. The scientist won a Nobel Prize. His research is groundbreaking.
5. The students passed the IELTS test. They took the preparation course.
คำตอบ:
1. I met a girl who speaks three languages.
2. My sister has a friend whose brother is a pilot.
3. There is a shop where they sell organic products.
4. The scientist who won a Nobel Prize has done groundbreaking research.
5. The students who passed the IELTS test took the preparation course.
แบบฝึกหัด 3: ย่อประโยคสัมพันธ์การกในประโยคต่อไปนี้โดยใช้รูปแบบที่เหมาะสม (V-ing หรือ V3/V-ed):
1. The boy who is standing over there is my cousin.
2. The reports that were prepared by the committee were well received.
3. The woman who lives next door is a doctor.
4. The packages which were delivered this morning are for you.
5. The students who are taking the exam are very nervous.
คำตอบ:
1. The boy standing over there is my cousin.
2. The reports prepared by the committee were well received.
3. The woman living next door is a doctor.
4. The packages delivered this morning are for you.
5. The students taking the exam are very nervous.
ประโยคสัมพันธการกมีบทบาทสำคัญในการทำให้ประโยคชัดเจนและให้ข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น การใช้ประโยคสัมพันธการกไม่เพียงพัฒนาทักษะด้านไวยากรณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณแสดงความคิดอย่างชัดเจนและแม่นยำยิ่งขึ้น การเรียนรู้ประโยคสัมพันธการกจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการเขียนและการพูด ฝึกฝนและใช้งานประโยคสัมพันธการกในชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว