ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

12 Tenses ขั้นพื้นฐาน: โครงสร้าง การใช้งาน และแบบฝึกหัด

ในภาษาอังกฤษมี 12 Tenses พื้นฐานที่ใช้ในการแสดงเวลาและสถานะของการกระทำ ด้านล่างนี้คือรายการและตัวอย่างสำหรับแต่ละ Tense:

เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพกับ MochiVocab

MochiVocab เป็นแอปพลิเคชั่นเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้วิธี Spaced Repetition ในการวิเคราะห์ประวัติการเรียนรู้ของผู้ใช้เพื่อคำนวณ “ช่วงเวลาทอง” ซึ่งจะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทบทวนเมื่อสมองกำลังจะลืมความรู้ โดยใช้เวลาเรียนเพียง 10-15 นาทีต่อวัน MochiVocab ช่วยให้ผู้เรียนจดจำคำศัพท์ได้มากถึง 1,000 คำในหนึ่งเดือน ปัจจุบัน

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดคือ “ช่วงเวลาทอง” ซึ่งจะคำนวณเวลาที่ผู้ใช้จะลืมคำศัพท์ตามประวัติการเรียนรู้ของผู้ใช้ เมื่อเวลานั้นมาถึง แอปจะแจ้งเตือนทางโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้ทบทวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจำ

จากผลการเรียนของคุณ MochiVocab จะจัดเรียงคำศัพท์ที่คุณได้เรียนรู้ตามระดับความจำ 5 ระดับ คำศัพท์ในระดับที่สูงขึ้นจะมีช่วงเวลาทบทวนที่ยาวนานขึ้น ในทางกลับกัน คำศัพท์ในระดับต่ำจะถูกแจ้งเตือนให้ทบทวนบ่อยขึ้นจนกว่าคุณจะจำได้อย่างแม่นยำ วิธีนี้จะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทบทวนคำศัพท์ที่คุณจำได้แล้ว เพื่อเน้นคำที่ยากและคุณมักจะลืม

app mochivocab
mochi 5 level
mochi notification

Simple Present (ปัจจุบันกาล)

สัญญาณ

  • คำวิเศษณ์แสดงความถี่: always, usually, often, sometimes, rarely, never, every (day/week/month/year), once (a day/week/month/year), twice (a day/week/month/year), etc.

ตัวอย่าง: She always gets up early. (เธอมักจะตื่นเช้าเสมอ)

  • คำวิเศษณ์แสดงเวลา: now, nowadays, today, this week, this month, these days, etc. (เมื่อบอกถึงนิสัยหรือความจริงทั่วไป)

ตัวอย่าง: Nowadays, people use smartphones more often. (ในปัจจุบันผู้คนใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น)

โครงสร้างประโยคกับคำกริยาปกติ

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + V(s/es)

ตัวอย่าง: He works in an office. / They play soccer every weekend.

หมายเหตุ: เพิ่ม “s” หรือ “es” ในคำกริยากับประธานเอกพจน์บุรุษที่สาม (he, she, it)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + do/does + not + V1 (Base Form)

ตัวอย่าง:

He does not (doesn’t) work in an office.

They do not (don’t) play soccer every weekend.

หมายเหตุ: ใช้ “does” กับประธานเอกพจน์บุรุษที่สาม และ “do” กับประธานอื่น ๆ

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Do/Does + S + V1 (Base Form)?

ตัวอย่าง:

Does he work in an office? /

Do they play soccer every weekend?

หมายเหตุ: ใช้ “does” กับประธานเอกพจน์บุรุษที่สาม และ “do” กับประธานอื่น ๆ

การใช้กับคำกริยาปกติ

  • แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ นิสัย หรือเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำในปัจจุบัน

ตัวอย่าง: I go to the gym every day. / She drinks coffee every morning.

  • แสดงความจริงทั่วไปหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ตัวอย่าง: The sun rises in the east. / Water boils at 100 degrees Celsius.

  • แสดงตารางเวลา แผนงาน (ใช้สำหรับอนาคต)

ตัวอย่าง: The train leaves at 8 PM. / The conference starts next Monday.

  • แสดงอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด สถานะ (คำกริยาแสดงอารมณ์ การรับรู้)

ตัวอย่าง: I love chocolate. / She believes in ghosts.

โครงสร้างประโยคกับ to be

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง: S + am/is/are

  • I am (I’m)
  • He/She/It is (He’s/She’s/It’s)
  • We/You/They are (We’re/You’re/They’re)

ตัวอย่าง:

I am a student. (ฉันเป็นนักเรียน)

She is a teacher. (เธอเป็นครู)

They are friends. (พวกเขาเป็นเพื่อนกัน)

ประโยคปฏิเสธ:

โครงสร้าง: S + am/is/are + not

  • I am not (I’m not)
  • He/She/It is not (isn’t)
  • We/You/They are not (aren’t)

ตัวอย่าง:

I am not tired. (ฉันไม่เหนื่อย)

He is not (isn’t) at home. (เขาไม่ได้อยู่บ้าน)

We are not (aren’t) ready. (พวกเราไม่พร้อม)

ประโยคคำถาม:

โครงสร้าง: Am/Is/Are + S?

  • Am I…?
  • Is he/she/it…?
  • Are we/you/they…?

ตัวอย่าง:

Am I late? (ฉันมาสายหรือเปล่า)

Is she your sister? (เธอคือพี่สาวของคุณใช่ไหม)

Are they at the park? (พวกเขาอยู่ที่สวนใช่ไหม)

การใช้ “to be” ใน Simple Present

แสดงสถานะหรือสภาพในปัจจุบัน

ตัวอย่าง: She is happy. (เธอมีความสุข) / They are busy. (พวกเขาไม่ว่าง)

แสดงอาชีพ สัญชาติ ศาสนา

ตัวอย่าง: He is a doctor. (เขาเป็นหมอ) / They are American. (พวกเขาเป็นชาวอเมริกัน)

แสดงลักษณะ คุณสมบัติ

ตัวอย่าง: The sky is blue. (ท้องฟ้าสีฟ้า) / The book is interesting. (หนังสือน่าสนใจ)

แสดงเวลา วันที่ อากาศ

ตัวอย่าง: It is 10 o’clock. (ตอนนี้สิบโมง) / It is Monday. (วันนี้วันจันทร์) / It is cold today. (วันนี้อากาศหนาว)

แสดงสถานที่

ตัวอย่าง: She is at home. (เธออยู่บ้าน) / The keys are on the table. (กุญแจอยู่บนโต๊ะ)


Present Continuous (ปัจจุบันกำลังทำ)

สัญลักษณ์

  • คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา: now, right now, at the moment, at present, currently, today, this week, this month, these days, etc.

ตัวอย่าง: She is studying right now. / They are working at the moment.

  • คำ/วลีที่แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในขณะพูด: Look!, Listen!, etc. 

ตัวอย่าง: Look! The baby is sleeping. / Listen! Someone is singing.

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า 

โครงสร้าง: 

S + am/is/are + V-ing 

  • I am (I’m) + V-ing 
  • He/She/It is (He’s/She’s/It’s) + V-ing 
  • We/You/They are (We’re/You’re/They’re) + V-ing 

ตัวอย่าง: 

I am reading a book. (ฉันกำลังอ่านหนังสือ) 

She is cooking dinner. (เธอกำลังทำอาหารเย็น) 

They are playing soccer. (พวกเขากำลังเล่นฟุตบอล)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง: 

S + am/is/are + not + V-ing

  • I am not (I’m not) + V-ing
  • He/She/It is not (isn’t) + V-ing
  • We/You/They are not (aren’t) + V-ing

ตัวอย่าง:

I am not watching TV. (ฉันไม่ได้กำลังดูทีวี)

He is not (isn’t) sleeping. (เขาไม่ได้กำลังนอน)

We are not (aren’t) going to the party. (เราไม่ได้ไปงานปาร์ตี้)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง: 

Am/Is/Are + S + V-ing?

  • Am I + V-ing?
  • Is he/she/it + V-ing?
  • Are we/you/they + V-ing?

ตัวอย่าง:

Am I disturbing you? (ฉันกำลังรบกวนคุณอยู่หรือเปล่า?)

Is she coming to the meeting? (เธอจะมาประชุมมั้ย?)

Are they traveling abroad? (พวกเขากำลังท่องเที่ยวต่างประเทศหรือไม่?)

การใช้

  • อธิบายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด

ตัวอย่าง: She is talking on the phone right now. (เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตอนนี้)

  • อธิบายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นรอบ ๆ ขณะนี้ ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในขณะพูด

ตัวอย่าง: I am studying for my exams this month. (ฉันกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบในเดือนนี้)

  • อธิบายแผนการหรือความตั้งใจในอนาคตอันใกล้

ตัวอย่าง: We are meeting our friends tomorrow. (พวกเราจะพบเพื่อนในวันพรุ่งนี้)

  • อธิบายการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนา

ตัวอย่าง: The population of the city is growing rapidly. (ประชากรในเมืองมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว)

  • อธิบายการกระทำซ้ำ ๆ ที่น่ารำคาญหรือรบกวน โดยใช้ “always”

ตัวอย่าง: She is always complaining about the weather. (เธอมักจะบ่นเกี่ยวกับสภาพอากาศอยู่เสมอ)

ตัวอย่างรวม

การกระทำที่กำลังเกิดขึ้น:

They are having lunch at the moment. (พวกเขากำลังทานอาหารกลางวันอยู่ในขณะนี้)

การกระทำรอบ ๆ ขณะนี้:

I am reading an interesting book these days. (ช่วงนี้ฉันกำลังอ่านหนังสือที่น่าสนใจ)

แผนการในอนาคต:

He is leaving for Paris next week. (เขาจะไปปารีสในสัปดาห์หน้า)

การเปลี่ยนแปลง:

The weather is getting colder. (อากาศเริ่มจะหนาวเย็นแล้ว)

การกระทำซ้ำ ๆ ที่น่ารำคาญ:

You are always forgetting your keys! (คุณมักจะลืมกุญแจอยู่เสมอ)


Present Perfect (ปัจจุบันสมบูรณ์)

กาลปัจจุบันสมบูรณ์ (Present Perfect) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือสถานการณ์ที่เสร็จสิ้นในเวลาที่ไม่กำหนดในอดีตแต่ยังคงมีผลกระทบถึงปัจจุบัน ด้านล่างนี้เป็นสัญลักษณ์และวิธีการใช้กาลปัจจุบันสมบูรณ์:

สัญลักษณ์

คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา: already, just, yet, ever, never, recently, lately, so far, up to now, until now, for, since, etc.

ตัวอย่าง:

She has already finished her homework. (เธอทำการบ้านเสร็จแล้ว)

Have you ever been to Paris? (คุณเคยไปปารีสไหม?)

I haven’t seen him lately. (ฉันไม่ได้พบเขาเมื่อเร็วๆ นี้)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง: 

S + have/has + V3 (Past Participle)

  • I/You/We/They have + V3
  • He/She/It has + V3

ตัวอย่าง:

I have visited Japan. (ฉันเคยไปญี่ปุ่นแล้ว)

She has finished her work. (เธอทำงานเสร็จแล้ว)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + have/has + not + V3

  • I/You/We/They have not (haven’t) + V3
  • He/She/It has not (hasn’t) + V3

ตัวอย่าง:

I have not (haven’t) visited Japan. (ฉันยังไม่เคยไปญี่ปุ่น)

He has not (hasn’t) finished his work. (เขายังไม่ทำงานเสร็จ)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง: 

Have/Has + S + V3?

  • Have I/you/we/they + V3?
  • Has he/she/it + V3?

ตัวอย่าง:

Have you visited Japan? (คุณเคยไปญี่ปุ่นหรือยัง?)

Has she finished her work? (เธอทำงานเสร็จหรือยัง?)

การใช้

  • ธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นในอดีตโดยไม่กำหนดเวลาชัดเจนและมีผลกระทบถึงปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

I have lost my keys. (ฉันทำกุญแจหายและปัจจุบันยังหาไม่เจอ)

She has broken her leg. (เธอขาหัก)

  • อธิบายประสบการณ์หรือประสบการณ์ที่มีจนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

They have traveled to many countries. (พวกเขาเคยไปท่องเที่ยวหลายประเทศ)

Have you ever tried sushi? (คุณเคยลองกินซูชิไหม?)

  • อธิบายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน (มักใช้กับ “for” และ “since”)

ตัวอย่าง:

I have lived here for five years. (ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ห้าปีแล้วและยังอยู่ต่อไป)

She has worked at this company since 2010. (เธอทำงานที่บริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2010 และยังทำงานอยู่)

  • อธิบายการกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้น (มักใช้กับ “just”)

ตัวอย่าง:

I have just finished my homework. (ฉันเพิ่งทำการบ้านเสร็จ)

He has just left the office. (เขาเพิ่งออกจากสำนักงาน)


Present Perfect Continuous (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)

Present Perfect Continuous (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน และอาจต่อเนื่องในอนาคต หรือเพื่อเน้นการกระทำที่ต่อเนื่อง ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

  • คำกริยาวิเศษณ์ของเวลา: for, since, all day/week/month/year, lately, recently, etc.

ตัวอย่าง:

She has been studying for two hours. (เธอเรียนมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว)

I have been working on this project all day. (ฉันทำงานในโครงการนี้มาตลอดทั้งวัน)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + have/has + been + V-ing

  • I/You/We/They have been + V-ing
  • He/She/It has been + V-ing

ตัวอย่าง:

I have been reading a book. (ฉันกำลังอ่านหนังสือ)

She has been waiting for you. (เธอกำลังรอคุณ)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + have/has + not + been + V-ing

  • I/You/We/They have not (haven’t) been + V-ing
  • He/She/It has not (hasn’t) been + V-ing

ตัวอย่าง:

I have not (haven’t) been watching TV. (ฉันไม่ได้ดูทีวี)

She has not (hasn’t) been working here for long. (เธอไม่ได้ทำงานที่นี่นานแล้ว)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Have/Has + S + been + V-ing?

  • Have I/you/we/they + been + V-ing?
  • Has he/she/it + been + V-ing?

ตัวอย่าง:

Have you been waiting for a long time? (คุณรอมานานหรือยัง?)

Has she been studying English? (เธอเรียนภาษาอังกฤษหรือยัง?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่เริ่มในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และอาจเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

ตัวอย่าง:

She has been studying at university for three years. (เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยมาเป็นเวลาสามปีแล้วและอาจจะเรียนต่อไป)

They have been living in this city since 2010. (พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ตั้งแต่ปี 2010 และอาจจะอาศัยต่อไป)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่ต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา มักจะใช้ร่วมกับ “lately”, “recently”

ตัวอย่าง:

I have been feeling tired lately. (ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหนื่อย)

She has been working hard recently. (ช่วงนี้เธอทำงานหนัก)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มักจะใช้ร่วมกับ “always”, “constantly”

ตัวอย่าง:

He has been complaining about his job all week. (เขาบ่นเรื่องงานของเขาตลอดทั้งสัปดาห์)

She has been talking on the phone all morning. (เธอคุยโทรศัพท์มาทั้งเช้าแล้ว)


Simple Past (อดีตกาลธรรมดา)

Simple Past (อดีตกาลธรรมดา) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดในอดีต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำที่บ่งบอกเวลาในอดีต: yesterday, last week/month/year, in 1990, two days ago, etc.

ตัวอย่าง:

She visited her grandparents last Sunday. (เธอไปเยี่ยมปู่ย่าตายายของเธอเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว)

I finished my homework two hours ago. (ฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + V2 (Past Form) / Irregular Verb

  • I/You/We/They + V2
  • He/She/It + V2

ตัวอย่าง:

I worked hard yesterday. (ฉันทำงานหนักเมื่อวานนี้)

She played tennis last week. (เธอเล่นเทนนิสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + did not (didn’t) + V1 (Base Form)

  • I/You/We/They + didn’t + V1
  • He/She/It + didn’t + V1

ตัวอย่าง:

I didn’t see him yesterday. (ฉันไม่ได้เจอเขาเมื่อวานนี้)

She didn’t finish her project on time. (เธอไม่ได้ทำโครงการของเธอให้เสร็จตรงเวลา)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Did + S + V1?

  • Did + I/you/we/they + V1?
  • Did + he/she/it + V1?

ตัวอย่าง:

Did you go to the party last night? (คุณไปงานปาร์ตี้เมื่อคืนหรือเปล่า?)

Did she call you yesterday? (เธอโทรหาคุณเมื่อวานไหม?)

การใช้

  • บรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดในอดีต

ตัวอย่าง:

She finished her homework last night. (เธอทำการบ้านเสร็จเมื่อคืนนี้)

They went to Paris last summer. (พวกเขาไปปารีสเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว)

  • บรรยายสภาวะหรือบุคลิกภาพในอดีต

ตัวอย่าง:

He was very happy when he got the news. (เขาดีใจมากเมื่อได้รับข่าวนี้)

She loved playing piano when she was young. (เธอชอบเล่นเปียโนตอนที่เธอยังเด็ก)

  • บรรยายการกระทำที่เกิดซ้ำหรือพฤติกรรมในอดีต

ตัวอย่าง:

Every morning, she walked her dog in the park. (ทุกเช้าเธอพาสุนัขเดินเล่นในสวน)

He always watched cartoons on Saturdays when he was a child. (เขามักดูการ์ตูนทุกวันเสาร์เมื่อยังเด็ก)


Past Continuous (อดีตกาลต่อเนื่อง)

Past Continuous (อดีตกาลต่อเนื่อง) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต ณ เวลาหนึ่งหรือในช่วงเวลาที่กำหนด ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำกริยาวิเศษณ์ของเวลาในอดีต: at 6 o’clock yesterday, while, when, as, etc.

ตัวอย่าง:

They were having dinner at 8 p.m. yesterday. (พวกเขากำลังกินอาหารเย็นตอน 8 โมงเย็นเมื่อวาน)

I was studying when she called. (ฉันกำลังเรียนเมื่อเธอโทรมา)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + was/were + V-ing

  • I/He/She/It + was + V-ing
  • You/We/They + were + V-ing

ตัวอย่าง:

I was studying when you called me. (ฉันกำลังเรียนเมื่อคุณโทรมาหาฉัน)

They were playing football at 3 p.m. yesterday. (พวกเขากำลังเล่นฟุตบอลตอน 3 โมงเย็นเมื่อวาน)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + was/were + not + V-ing

  • I/He/She/It + was not (wasn’t) + V-ing
  • You/We/They + were not (weren’t) + V-ing

ตัวอย่าง:

She wasn’t listening to music when I entered the room. (เธอไม่ได้ฟังเพลงเมื่อฉันเข้าห้อง)

We weren’t watching TV at that time. (พวกเราไม่ได้ดูทีวีตอนนั้น)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Was/Were + S + V-ing?

  • Was + I/he/she/it + V-ing?
  • Were + you/we/they + V-ing?

ตัวอย่าง:

Were you sleeping when I called you? (ตอนที่ฉันโทรหาคุณ คุณนอนหลับอยู่รึเปล่า?)

Was he working in the garden yesterday morning? (เมื่อเช้านี้เขาทำงานอยู่ในสวนใช่ไหม)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้น ณ เวลาหนึ่งในอดีต

ตัวอย่าง:

I was studying at 10 p.m. last night. (เมื่อคืนฉันยังเรียนหนังสือตอน 4 ทุ่มอยู่เลย)

They were playing basketball when it started raining. (พวกเขากำลังเล่นบาสเกตบอลเมื่อฝนเริ่มตก)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตเมื่อการกระทำอื่นเกิดขึ้น

ตัวอย่าง:

She was cooking dinner when the phone rang. (เธอกำลังทำอาหารเย็นเมื่อโทรศัพท์ดัง)

They were watching TV while it was snowing outside. (พวกเขากำลังดูทีวีในขณะที่หิมะตกข้างนอก)

  • เพื่อบรรยายการกระทำสองอย่างที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต

ตัวอย่าง:

He was reading a book while she was listening to music. (เขากำลังอ่านหนังสือในขณะที่เธอกำลังฟังเพลง)

I was walking home when I met him. (ฉันกำลังเดินกลับบ้านเมื่อฉันพบเขา)


Past Perfect (อดีตกาลสมบูรณ์)

Past Perfect (อดีตกาลสมบูรณ์) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการกระทำอื่นในอดีต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์การรู้จำและการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์การรู้จำ

คำที่บ่งบอกเวลาในอดีต: before, by the time, already, just, until, etc.

ตัวอย่าง:

She had finished her work before he arrived. (เธอทำงานเสร็จก่อนที่เขาจะมา)

They had already left when we arrived. (พวกเขาได้ออกไปแล้วเมื่อเรามาถึง)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + had + V3 (Past Participle)

  • I/You/We/They + had + V3
  • He/She/It + had + V3

ตัวอย่าง:

I had finished my homework before dinner. (ฉันทำการบ้านเสร็จก่อนอาหารเย็น)

She had already eaten when I arrived. (เธอกินอาหารแล้วเมื่อฉันมาถึง)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + had + not (hadn’t) + V3

  • I/You/We/They + hadn’t + V3
  • He/She/It + hadn’t + V3

ตัวอย่าง:

I hadn’t seen him for years before he contacted me. (ฉันไม่เจอเขามาหลายปีก่อนที่เขาจะติดต่อมา)

She hadn’t finished her work when the meeting started. (เธอไม่ได้ทำงานเสร็จก่อนที่การประชุมจะเริ่ม)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Had + S + V3?

  • Had + I/you/we/they + V3?
  • Had + he/she/it + V3?

ตัวอย่าง:

Had you ever been to Paris before last summer? (คุณเคยไปปารีสก่อนฤดูร้อนปีที่แล้วหรือเปล่า?)

Had she finished her presentation before the guests arrived? (เธอทำการนำเสนอเสร็จก่อนที่แขกจะมาหรือไม่?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนการกระทำอื่นในอดีต

ตัวอย่าง:

She had already left when I arrived. (เธอได้ออกไปแล้วเมื่อฉันมาถึง)

He had finished his work before the deadline. (เขาทำงานเสร็จก่อนกำหนด)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่เจาะจงในอดีต

ตัวอย่าง:

I had never seen snow before I moved to Canada. (ฉันไม่เคยเห็นหิมะก่อนที่จะย้ายไปแคนาดา)

They had already bought tickets by the time I called them. (พวกเขาได้ซื้อบัตรแล้วก่อนที่ฉันจะโทรไป)

  • เพื่อบรรยายการคาดการณ์หรือความเสียดายเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เกิดขึ้นในอดีต

ตัวอย่าง:

If I had known you were coming, I would have prepared dinner. (ถ้าฉันรู้ว่าคุณจะมา ฉันคงจะเตรียมอาหารเย็นไว้แล้ว)

She wished she had studied harder for the exam. (เธอหวังว่าเธอจะตั้งใจเรียนหนักขึ้นเพื่อสอบ)


Past Perfect Continuous (อดีตกาลสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง)

Past Perfect Continuous (อดีตกาลสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งในอดีตก่อนเวลาหนึ่งที่กำหนดในอดีต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำกริยาวิเศษณ์ของเวลาในอดีต: by the time, before, until, already, just, etc.

ตัวอย่าง:

He had been studying for two hours before he took a break. (เขาเรียนมาเป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนที่จะพัก)

She had already been waiting for an hour when the train arrived. (เธอรอมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่รถไฟจะมาถึง)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + had been + V-ing

  • I/You/We/They had been + V-ing
  • He/She/It had been + V-ing

ตัวอย่าง:

I had been working all day. (ฉันทำงานมาตลอดทั้งวัน)

She had been waiting for me for two hours. (เธอรอฉันมาเป็นเวลาสองชั่วโมง)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + had not (hadn’t) been + V-ing

  • I/You/We/They had not (hadn’t) been + V-ing
  • He/She/It had not (hadn’t) been + V-ing

ตัวอย่าง:

I had not (hadn’t) been studying for long when he called. (ฉันไม่ได้เรียนมานานเมื่อเขาโทรมา)

She had not (hadn’t) been sleeping well recently. (เธอนอนไม่ค่อยดีในช่วงนี้)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Had + S + been + V-ing?

  • Had + I/you/we/they + been + V-ing?
  • Had + he/she/it + been + V-ing?

ตัวอย่าง:

Had you been waiting for long when he arrived? (คุณรอเขามาถึงนานไหม?)

Had she been working here for a long time before she got promoted? (เธอทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่เริ่มต้นและต่อเนื่องในอดีตจนถึงเวลาหนึ่งที่กำหนดในอดีต

ตัวอย่าง:

She had been studying English for two years before she moved to England. (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาสองปีก่อนที่จะย้ายไปอังกฤษ)

I had been working at that company for five years before I decided to quit. (ฉันทำงานที่บริษัทนั้นมาเป็นเวลาห้าปีก่อนที่จะตัดสินใจลาออก)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่ต่อเนื่องในอดีตจนถึงเวลาหนึ่งที่กำหนดในอดีต

ตัวอย่าง:

They had been traveling around Europe for six months before they ran out of money. (พวกเขาเดินทางรอบยุโรปมาเป็นเวลาหกเดือนก่อนที่จะหมดเงิน)

He had been working on his novel for years before it finally got published. (เขาทำงานนวนิยายของเขามานานหลายปีก่อนที่จะได้รับการตีพิมพ์ในที่สุด)

  • เพื่อบรรยายการกระทำหรือสภาวะที่ต่อเนื่องในอดีตแต่ไม่ต่อเนื่องในปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

She had been living in New York for ten years before she moved to Los Angeles. (เธออาศัยอยู่ในนิวยอร์กเป็นเวลาสิบปีก่อนที่จะย้ายไปลอสแองเจลิส)

He had been working as a teacher for decades before he retired. (เขาทำงานเป็นครูมาเป็นเวลาหลายสิบปีก่อนที่จะเกษียณ)

Simple Future (อนาคตกาลธรรมดา)

Simple Future (อนาคตกาลธรรมดา) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำกริยาวิเศษณ์ของเวลาในอนาคต: tomorrow, next week/month/year, in a week/month/year, in the future, etc.

ตัวอย่าง:

We will travel to Paris next month. (พวกเราจะไปเที่ยวปารีสเดือนหน้า)

He will start his new job next Monday. (เขาจะเริ่มงานใหม่ในวันจันทร์หน้า)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + will + V1 (Base Form)

  • I/You/We/They will + V1
  • He/She/It will + V1

ตัวอย่าง:

I will go to the beach tomorrow. (ฉันจะไปชายหาดพรุ่งนี้)

She will study English next year. (เธอจะเรียนภาษาอังกฤษในปีหน้า)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + will + not (won’t) + V1

  • I/You/We/They will not (won’t) + V1
  • He/She/It will not (won’t) + V1

ตัวอย่าง:

I won’t go to the party tonight. (ฉันจะไม่ไปงานเลี้ยงคืนนี้)

She won’t forget your birthday. (เธอจะไม่ลืมวันเกิดของคุณ)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Will + S + V1?

  • Will + I/you/we/they + V1?
  • Will + he/she/it + V1?

ตัวอย่าง:

Will you come to the meeting tomorrow? (คุณจะมาประชุมพรุ่งนี้ไหม?)

Will she finish her project on time? (เธอจะเสร็จโครงการตรงเวลาหรือไม่?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง:

We will buy a new car next year. (พวกเราจะซื้อรถใหม่ในปีหน้า)

She will call you later. (เธอจะโทรหาคุณทีหลัง)

  • เพื่อบรรยายการคาดการณ์หรือการประมาณเกี่ยวกับอนาคต

ตัวอย่าง:

It will rain tomorrow. (พรุ่งนี้จะฝนตก)

He won’t be late for the meeting. (เขาจะไม่มาสายสำหรับการประชุม)

  • เพื่อบรรยายแผนหรือความตั้งใจในอนาคต

ตัวอย่าง:

I will start my diet next Monday. (ฉันจะเริ่มการควบคุมอาหารในวันจันทร์หน้า)

They will travel around the world in the future. (พวกเขาจะเดินทางรอบโลกในอนาคต)

  • เพื่อบรรยายคำสัญญา การตกลง หรือข้อเสนอ

ตัวอย่าง:

I will help you with your homework. (ฉันจะช่วยคุณทำการบ้าน)

She will visit her grandmother this weekend. (เธอจะไปเยี่ยมคุณย่าในสุดสัปดาห์นี้)

Future Continuous (อนาคตกาลต่อเนื่อง)

Future Continuous (อนาคตกาลต่อเนื่อง) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำหรือวลีที่บ่งบอกเวลาในอนาคต: at this time tomorrow, this time next week/month/year, in ten minutes, etc.

ตัวอย่าง:

I will be studying at this time tomorrow. (ฉันจะกำลังเรียนในเวลานี้วันพรุ่งนี้)

They will be having dinner this time next week. (พวกเขาจะกำลังกินอาหารเย็นในเวลานี้สัปดาห์หน้า)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + will be + V-ing

  • I/You/We/They will be + V-ing
  • He/She/It will be + V-ing

ตัวอย่าง:

I will be working at this time tomorrow. (ฉันจะกำลังทำงานในเวลานี้วันพรุ่งนี้)

She will be studying English at 8 PM tonight. (เธอจะกำลังเรียนภาษาอังกฤษตอน 8 โมงเย็นวันนี้)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + will not (won’t) be + V-ing

  • I/You/We/They will not (won’t) be + V-ing
  • He/She/It will not (won’t) be + V-ing

ตัวอย่าง:

I won’t be sleeping when you arrive. (ฉันจะไม่กำลังนอนเมื่อคุณมาถึง)

She won’t be working next Monday. (เธอจะไม่กำลังทำงานในวันจันทร์หน้า)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Will + S + be + V-ing?

  • Will + I/you/we/they + be + V-ing?
  • Will + he/she/it + be + V-ing?

ตัวอย่าง:

Will you be studying at 10 PM tonight? (คุณจะกำลังเรียนตอน 10 โมงเย็นวันนี้หรือเปล่า?)

Will she be cooking dinner when we arrive? (เธอจะปรุงอาหารเย็นเมื่อเรามาถึงหรือไม่?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต

ตัวอย่าง:

I will be studying at 9 PM tonight. (ฉันจะกำลังเรียนตอน 9 โมงเย็นวันนี้)

They will be having lunch at 12 PM tomorrow. (พวกเขาจะรับประทานอาหารกลางวันกันตอน 12.00 น. พรุ่งนี้)

  • เพื่อบรรยายความตั้งใจหรือแผนในอนาคต

ตัวอย่าง:

He will be traveling to Europe next month. (เขาจะกำลังเดินทางไปยุโรปเดือนหน้า)

We will be attending the conference next week. (พวกเราจะกำลังเข้าร่วมการประชุมสัปดาห์หน้า)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต

ตัวอย่าง:

She will be working on this project all day tomorrow. (เธอจะกำลังทำงานในโครงการนี้ตลอดทั้งวันพรุ่งนี้)

They will be renovating their house for the next few weeks. (พวกเขาจะกำลังปรับปรุงบ้านในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า)

Future Perfect (อนาคตกาลสมบูรณ์)

Future Perfect (อนาคตกาลสมบูรณ์) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเวลาหนึ่งที่กำหนดในอนาคต ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำบ่งบอกเวลาในอนาคต: by, by the time, before, when, until, etc.

ตัวอย่าง:

They will have finished the project by next Monday. (พวกเขาจะทำโครงการเสร็จในวันจันทร์หน้า)

I will have graduated from university by the end of this year. (ฉันจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยภายในสิ้นปีนี้)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + will + have + V3 (Past Participle)

  • I/You/We/They will have + V3
  • He/She/It will have + V3

ตัวอย่าง:

By the time you arrive, I will have finished my work. (ก่อนที่คุณจะมาถึง ฉันจะทำงานเสร็จแล้ว)

She will have completed her assignment by tomorrow. (เธอจะทำการบ้านเสร็จในวันพรุ่งนี้)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + will + not (won’t) + have + V3

  • I/You/We/They will not (won’t) have + V3
  • He/She/It will not (won’t) have + V3

ตัวอย่าง:

By the end of the year, I won’t have traveled to Europe. (ภายในสิ้นปีนี้ ฉันจะยังไม่ได้เดินทางไปยุโรป)

They won’t have finished the construction by the deadline. (พวกเขาจะยังไม่เสร็จงานก่อสร้างตามกำหนดเวลา)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Will + S + have + V3?

  • Will + I/you/we/they + have + V3?
  • Will + he/she/it + have + V3?

ตัวอย่าง:

Will you have completed the report by tomorrow? (คุณจะทำรายงานเสร็จภายในพรุ่งนี้ไหม)

Will she have arrived at the airport by noon? (เธอจะมาถึงสนามบินภายในเที่ยงหรือยัง?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่จะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเวลาหนึ่งที่กำหนดในอนาคต

ตัวอย่าง:

By the time he arrives, I will have finished cooking dinner. (ก่อนที่เขาจะมาถึง ฉันจะทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว)

She will have graduated from college by the end of this semester. (เธอจะจบการศึกษาจากวิทยาลัยภายในสิ้นภาคการศึกษานี้)

  • เพื่อบรรยายการคาดการณ์เกี่ยวกับการกระทำที่จะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเวลาหนึ่งที่กำหนดในอนาคต

ตัวอย่าง:

By the time the movie starts, I will have read the book. (ก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่ม ฉันจะอ่านหนังสือจบแล้ว)

By the end of the year, they will have saved enough money to buy a new car. (ภายในสิ้นปีพวกเขาจะมีเงินออมพอที่จะซื้อรถคันใหม่ได้)

  • เพื่อบรรยายสิ่งที่จะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเหตุการณ์หรือการกระทำอื่นในอนาคต

ตัวอย่าง:

By the time you get home, I will have cleaned the house. (ก่อนที่คุณจะกลับบ้าน ฉันจะทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว)

Before the guests arrive, she will have prepared all the food. (ก่อนที่แขกจะมาถึง เธอจะเตรียมอาหารทั้งหมดเสร็จแล้ว)

Future Perfect Continuous (อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)

Future Perfect Continuous (อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง) ใช้เพื่อบรรยายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งในอนาคตจนถึงเวลาหนึ่งที่กำหนด ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์และการใช้กาลนี้:

สัญลักษณ์

คำบ่งบอกเวลาในอนาคต: by the time, by, in + a period of time (e.g., in two hours, in a week), etc.

ตัวอย่าง:

By the time you arrive, I will have been waiting for two hours. (ก่อนที่คุณจะมาถึง ฉันจะรอมาสองชั่วโมงแล้ว)

In two years, I will have been working here for a decade. (ในอีกสองปี ฉันจะทำงานที่นี่มาสิบปีแล้ว)

โครงสร้างประโยค

ประโยคบอกเล่า

โครงสร้าง:

S + will have been + V-ing

  • I/You/We/They will have been + V-ing
  • He/She/It will have been + V-ing

ตัวอย่าง:

I will have been studying English for five years by next summer. (ฉันจะเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลาห้าปีในฤดูร้อนหน้า)

She will have been living in London for ten years by the end of this year. (เธอจะอาศัยอยู่ในลอนดอนมาเป็นเวลาสิบปีภายในสิ้นปีนี้)

ประโยคปฏิเสธ

โครงสร้าง:

S + will not (won’t) have been + V-ing

  • I/You/We/They will not (won’t) have been + V-ing
  • He/She/It will not (won’t) have been + V-ing

ตัวอย่าง:

I won’t have been waiting for you for too long when you arrive. (ฉันจะไม่รอนานเกินไปเมื่อคุณมาถึง)

She won’t have been working here for a year by next month. (เธอจะยังทำงานที่นี่ไม่ครบหนึ่งปีในเดือนหน้า)

ประโยคคำถาม

โครงสร้าง:

Will + S + have been + V-ing?

  • Will + I/you/we/they + have been + V-ing?
  • Will + he/she/it + have been + V-ing?

ตัวอย่าง:

Will you have been living here for a year by the end of this month? (ภายในสิ้นเดือนนี้คุณจะสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ครบหนึ่งปีแล้วใช่หรือไม่?)

Will she have been working on this project for three months by next week? (เธอจะทำงานในโครงการนี้ครบสามเดือนภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่?)

การใช้

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่ต่อเนื่องในอนาคตก่อนเวลาหนึ่งที่กำหนด

ตัวอย่าง:

By the time I finish this course, I will have been studying English for two years. (ก่อนที่ฉันจะจบคอร์สนี้ ฉันจะเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลาสองปีแล้ว)

By the time she turns thirty, she will have been working in this company for a decade. (ก่อนที่เธอจะอายุสามสิบปี เธอจะทำงานในบริษัทนี้มาเป็นเวลาสิบปีแล้ว)

  • เพื่อบรรยายการกระทำที่ต่อเนื่องหรือล่วงเวลาในอนาคต

ตัวอย่าง:

By next summer, he will have been living abroad for fifteen years. (ภายในฤดูร้อนหน้า เขาจะอาศัยอยู่ต่างประเทศมาเป็นเวลาสิบห้าปีแล้ว)

By the end of the month, they will have been traveling around the world for six months. (ภายในสิ้นเดือนนี้ พวกเขาจะเดินทางรอบโลกมาเป็นเวลาหกเดือนแล้ว)

  • เพื่อบรรยายผลของการกระทำที่ต่อเนื่องในอดีตจนถึงอนาคต

ตัวอย่าง:

By the time you arrive, I will have been waiting for you for two hours. (ก่อนที่คุณจะมาถึง ฉันจะรอคุณมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว)

By next week, she will have been working on this project for three months. (ภายในสัปดาห์หน้าเธอจะทำงานในโครงการนี้มาเป็นเวลาสามเดือนแล้ว)


แบบฝึกหัดการใช้ไวยากรณ์

  1. She ______ to the gym every day.

a) go

b) goes

c) going

d) gone

คำตอบ: b

  1. They ______ breakfast at 7 AM.

a) has

b) have

c) having

d) had

คำตอบ: b

  1. Right now, he ______ a book.

a) read

b) reads

c) is reading

d) has read

คำตอบ: c

  1. We ______ for the bus at the moment.

a) wait

b) waits

c) are waiting

d) have waited

คำตอบ: c

  1. She ______ already ______ her homework.

a) have, done

b) has, did

c) have, did

d) has, done

คำตอบ: d

  1. They ______ in this city for five years.

a) have lived

b) has lived

c) lived

d) living

คำตอบ: a

  1. He ______ for two hours.

a) has studied

b) is studying

c) has been studying

d) studied

คำตอบ: c

  1. We ______ to this music all evening.

a) have listening

b) have been listening

c) are listening

d) were listening

คำตอบ: b

  1. She ______ to Paris last summer.

a) goes

b) gone

c) went

d) going

คำตอบ: c

  1. They ______ the movie last night.

a) watch

b) watched

c) watches

d) watching

คำตอบ: b

  1. I ______ when the phone rang.

a) was sleeping

b) slept

c) am sleeping

d) have slept

คำตอบ: a

  1. They ______ dinner when we arrived.

a) are having

b) were having

c) had

d) having

คำตอบ: b

  1. By the time we got to the theater, the movie ______.

a) started

b) starts

c) had started

d) starting

คำตอบ: c

  1. She ______ the letter before he arrived.

a) wrote

b) has written

c) had written

d) writes

คำตอบ: c

  1. They ______ for an hour when we joined them.

a) have been playing

b) had been playing

c) were playing

d) played

คำตอบ: b

  1. She ______ for three hours before she took a break.

a) has been studying

b) had been studying

c) studied

d) is studying

คำตอบ: b

  1. I ______ you tomorrow.

a) see

b) saw

c) will see

d) am seeing

คำตอบ: c

  1. They ______ to the party next week.

a) go

b) went

c) gone

d) will go

คำตอบ: d

  1. This time tomorrow, I ______ on the beach.

a) will be lying

b) lie

c) lied

d) will lie

คำตอบ: a

  1. She ______ at 8 PM tonight.

a) will study

b) will be studying

c) studies

d) studied

คำตอบ: b

  1. By next year, she ______ her degree.

a) will earn

b) will have earned

c) earned

d) is earning

คำตอบ: b

  1. They ______ the project by the deadline.

a) will finish

b) will have finished

c) finished

d) are finishing

คำตอบ: b

  1. By the end of this month, he ______ for this company for 10 years.

a) will work

b) will have been working

c) worked

d) is working

คำตอบ: b

  1. They ______ for five hours straight by midnight.

a) will be traveling

b) will have been traveling

c) travel

d) have traveled

คำตอบ: b