หนึ่งในองค์ประกอบที่คุ้นเคยในประโยคภาษาอังกฤษแบบ Perfect Tense คือ บุพบท Since และ For คำสองคำนี้ล้วนอ้างถึงเวลา แต่มีวิธีใช้ที่แตกต่างกันหลายจุด ซึ่งอาจทำให้ผู้เรียนภาษาอังกฤษสับสนได้ ในบทความนี้ MochiMochi จะพาคุณไปแยกความแตกต่างระหว่าง Since และ For กัน!
I. Since
ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ Since ผ่านหัวข้อต่างๆ ดังนี้
1. Since คืออะไร?
Since /sɪns/ คือ บุพบทที่ใช้ในประโยค Perfect Tense และอ้างถึงเวลา Since มีความหมายว่า “ตั้งแต่ (จากจุดหนึ่งในอดีตจนถึงเวลาหนึ่งในภายหลัง หรือจนถึงปัจจุบัน)”
ตัวอย่าง:
- I have been working at this company since 2015. (ฉันทำงานที่บริษัทนี้มาตั้งแต่ปี 2015)
- She has been studying French since she was in high school. (เธอเรียนภาษาฝรั่งเศสมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม)
2. วิธีใช้ Since
สัญญาณที่บ่งบอกถึงการใช้ Since:
- จุดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต: เช่น วัน เดือน ปี เหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
- การกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน: มักใช้ร่วมกับ Perfect Tense (Present Perfect, Past Perfect)
- Since ใช้เพื่อระบุจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา มักใช้ตามด้วยจุดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต
โครงสร้างทั่วไป: Since + จุดเวลา
ตัวอย่าง:
- We have been friends since we were kids. (เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก)
- He has been living in New York since last year. (เขาอาศัยอยู่ในนิวยอร์กมาตั้งแต่ปีที่แล้ว)
3. โครงสร้างประโยคที่ใช้ Since
Since ตามด้วยจุดเวลา หรือ อนุประโยคที่ใช้กริยา Past Simple ที่ระบุจุดเวลาที่เฉพาะเจาะจง
Since ใช้ใน Perfect Tense ดังนี้:
- Present Perfect Tense: S + have/has + V3 + since + time/clause (S + V2)
ตัวอย่าง: They have been dating since they met in college. (พวกเขาคบกันมาตั้งแต่เจอกันที่มหาวิทยาลัย)
- Present Perfect Continuous Tense: S + have/has + been + V-ing + since + time/clause (S + V2)
ตัวอย่าง: It has been raining since yesterday. (ฝนตกมาตั้งแต่เมื่อวาน)
- Past Perfect Tense: S + had + V3 + since + time/clause (S + V2)
ตัวอย่าง: When I arrived at the party, he had left since 8 o’clock. (ตอนที่ฉันมาถึงงานปาร์ตี้ เขาก็ออกไปตั้งแต่สองทุ่มแล้ว)
- Past Perfect Continuous Tense: S + had + been + V-ing + since + time/clause (S + V2)
ตัวอย่าง: She had been working on the project since Monday. (เธอทำโครงงานนี้มาตั้งแต่วันจันทร์)
เพื่อให้เชี่ยวชาญในการใช้โครงสร้างกับ Since ลองฝึกแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างแต่ละแบบที่กล่าวถึงข้างต้น การขยายคำศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแต่งประโยคที่ดี MochiVocab จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยให้คุณทำเช่นนั้น
MochiVocab นำเสนอคอร์สเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับคุณ ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง แต่ละคอร์สเรียนมาพร้อมกับชุดแฟลชการ์ด ซึ่งประกอบด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ความหมายภาษาไทย การออกเสียง คำอ่านตัวอย่าง (ไฟล์เสียง) ประโยคตัวอย่าง และรูปภาพประกอบที่เข้าใจง่าย ซึ่งจะช่วยให้คุณจดจำคำศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ MochiVocab ยังคำนวณและแจ้งเตือนเวลาทบทวนที่เหมาะสมที่สุด โดยอิงตามหลักการเรียนรู้แบบเว้นระยะ (Spaced Repetition) กล่าวคือ MochiVocab จะวิเคราะห์ประวัติการเรียนรู้คำศัพท์ของคุณ เพื่อคำนวณช่วงเวลาที่คุณใกล้จะลืมคำศัพท์นั้นๆ และแจ้งเตือนให้คุณทบทวน วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำคำศัพท์ได้หลายเท่าตัว
พร้อมกันนี้ คำศัพท์ที่เรียนรู้แล้วจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งสอดคล้องกับ 5 ระดับของความจำ ตั้งแต่คำศัพท์ใหม่ไปจนถึงคำศัพท์ที่จดจำได้แม่นยำ MochiVocab จะกระจายความถี่ของคำถามทบทวนอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงคำศัพท์ที่คุณจำได้ดีแล้วและยังจำไม่ได้ เพื่อให้คุณสามารถจดจ่อกับคำศัพท์ที่ยากได้มากขึ้น
II. For
ในส่วนถัดไป MochiMochi จะให้ความรู้เกี่ยวกับคำบุพบท For
1. For คืออะไร?
For /fɔːr/ /fɚ/ คือ บุพบทที่มักใช้เพื่ออ้างถึงเวลา ซึ่งแตกต่างจาก Since ตรงที่ For สามารถใช้ได้ในหลากหลาย tenses
For มีความหมายว่า “เป็นระยะเวลาหนึ่ง ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น”
ตัวอย่าง:
- She has studied for two hours. (เธอเรียนมาแล้วสองชั่วโมง)
- I have lived in Hanoi for five years. (ฉันอาศัยอยู่ในฮานอยมาห้าปีแล้ว)
2. วิธีใช้ For
สัญญาณที่บ่งบอกถึงการใช้ For:
- For มักใช้ตามด้วยช่วงระยะเวลาของการกระทำหรือสถานะ
- Tenses ที่สามารถใช้ร่วมกับ For ได้แก่ Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Past Continuous, Past Perfect, Future Simple และอื่นๆ
- For ระบุระยะเวลาของช่วงเวลา
โครงสร้างทั่วไป: For + ช่วงเวลา
- For + จำนวน + หน่วยเวลา: for five minutes, for two hours, for three days,…
- For + ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน: for a long time, for a while, for ages,…
ตัวอย่าง:
- I have been waiting for you for an hour. (ฉันรอคุณมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
- They have known each other for a long time. (พวกเขารู้จักกันมานานแล้ว)
3. โครงสร้างประโยคที่ใช้ For
ในประโยค For มักจะอยู่หน้าช่วงเวลาที่การกระทำหรือเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น For ไม่เพียงแต่ใช้ในประโยค Perfect Tense เท่านั้น แต่ยังใช้ใน tenses อื่นๆ เช่น Present Tense, Past Tense และ Future Tense.
ตัวอย่าง:
- She has been a teacher for 10 years. (เธอเป็นครูมา 10 ปีแล้ว)
- She studied French for two years. (เธอเรียนภาษาฝรั่งเศสมาสองปี)
- They will travel to Europe for a month. (พวกเขาจะไปเที่ยวทวีปยุโรปเป็นเวลาหนึ่งเดือน)
- By the time she arrived, he had waited for two hours. (เมื่อเธอมาถึง เขาก็รอมาสองชั่วโมงแล้ว)
III. แบบฝึกหัด
เลือกคำตอบที่ถูกต้อง:
- She has lived in this house __________ 10 years.
a. since
b. for - Before he retired, he had worked at that company __________ 30 years.
a. since
b. for - They have been friends __________ since childhood.
a. since
b. for - By the time the movie started, we had waited __________ 30 minutes.
a. since
b. for - I have known her _____ we were children.
a. since
b. for - They have been married _____ 10 years.
a. since
b. for - He has been working on this project _____ last Monday.
a. since
b. for - She has lived in London _____ she was 20.
a. since
b. for - We have been waiting for the bus _____ half an hour.
a. since
b. for - She has known him _____ they were at school.
a. since
b. for
เฉลย
- b
- b
- a
- b
- a
- b
- a
- a
- b
- a
จากบทความข้างต้น MochiMochi ได้แยกความแตกต่างระหว่างคำบุพบทที่บ่งบอกเวลาสองคำ ได้แก่ Since และ For ในภาษาอังกฤษ Since ใช้เพื่อระบุจุดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต ในขณะที่ For ใช้เพื่อระบุช่วงระยะเวลา หวังว่าคุณจะเข้าใจวิธีการใช้คำสองคำนี้หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว และอย่าลืมติดตามหัวข้อภาษาอังกฤษอื่นๆ จาก MochiMochi!